หลายคนชอบคิดว่าการที่มีหน้าตาดูดี ขาว สวย หมวย … (เชื่อว่าท่านผู้อ่านสามารถเติมคำลงในช่องว่างได้) จะเป็น Type ที่หนุ่มๆ รัก ซึ่งจริงๆ ก็ใช่แหละ แต่! ก็มีผู้หญิงหลายคนที่สวยแบบพิมพ์นิยมแต่พอมารู้จักเข้าแล้ว First Impression จบ บุคลิกจืดชืดเหมือนแกงจืดเต้าหู้ไข่ไม่ใส่คนอร์ ไม่น่าหลงใหลเลยยย เสน่ห์เธอเก็บไว้ที่ปู่โสมเฝ้าทรัพย์หรอ หรือยังไง? ทำไมไม่มีเสน่ห์เอาซะเลย.. เนี่ยแหละนะ ถึงไม่มีใครมาเข้าหาสักที ดังนั้นสาวๆ จึงแค่สวยอย่างเดียวไม่ได้ ต้องรู้จักสร้างเสน่ห์ให้ตัวเองด้วยนะ วันนี้เราเลยอยากให้ทริค How To กับสาวๆ The Passion มาเปลี่ยนทัศนคติ เพิ่มเสน่ห์ของตัวเองให้กลายเป็น สาวพราวเสน่ห์ จนใครๆ เป็นต้องหลงรักมาฝาก อยากรู้แล้วใช่ไหม? เอานิ้วสไลด์หน้าจอลงไปอ่านเล้ย
อย่างแรก “เปลี่ยนทัศนคติในใจเราก่อน”
เรื่องทัศนคติเนี่ย เป็นเรื่องของจิตใต้สำนึก ก็จะเปลี่ยนยากหน่อย แต่ถ้าเปลี่ยนได้ ชีวิตก็จะเปลี่ยนเลยนะ เราต้องคิดว่าเราเป็นสาวสวยรวยเสน่ห์ ถึงแม้เราจะหน้าตาสู้อั้ม พัชราภาไม่ได้ แต่ถ้าเราคิดว่าเรามีเสน่ห์ที่ทำให้คนรอบข้างรู้สึกดี มีความสุข เห็นแล้วอยากอยู่ใกล้ บุคลิกแบบ Friendly มีน้ำใจ มันจะมีออร่าอบอุ่นอยู่รอบตัว เป็นแม่เหล็กดูดคนรอบข้างเป็นอย่างดีโดยที่เราไม่รู้ตัวเลยล่ะ แบบนี้แหละที่หนุ่มๆ เขาตามหา
มันเรียกว่า ‘การเคารพตัวตนของตัวเอง’ คิดว่าเราเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีคุณค่า มีความสวยงามในตัวเอง ให้จินตนาการว่าเราจะอยู่บนโลกนี้อย่างดอกหญ้าที่จืดชืดและแห้งเหี่ยวไป หรือดอกกุหลาบพันปีที่เบ่งบานสวยงาม สร้างสีสันให้กับพื้นหญ้า อู้ว… ภาพมาไหมล่ะคะ ถ้าตัวเรายังไม่ให้เกียรติตัวเอง ใครจะมองเห็นคุณค่านั้นล่ะ จริงไหม? ต้องมั่นใจในตัวเองเข้าไว้ คิดว่าตัวเองสวยมีเสน่ห์ สามารถสร้างสีสัน แบ่งปันความสุขให้กับทุกคนได้ ยิ่งเราชอบตัวเองมากเท่าไหร่ เราจะยิ่งมีเสน่ห์มากขึ้นเท่านั้น
“รู้จักตัวเอง และเป็นตัวของตัวเอง”
“สวยมักนก ตลกมักได้” ลองย้อนมองโลกความจริงกัน จะมีผู้หญิงประเภทที่ไม่ได้สวยจัดเหมือนนางฟ้า หน้าตาปกติธรรมดามาก แต่ก็มีคนเข้าหาตลอดเวลา ทำไมกัน? สวยๆ อย่างเรายังนกมาเป็นปีๆ… เหตุผลก็เพราะผู้หญิงกลุ่มนั้นนางขายที่ความสามารถของนาง มีจุดเด่นที่เป็นเสน่ห์ที่อีกฝ่ายชอบ เช่น เป็นคนตลก พูดอะไรไปก็ทำให้คนรอบข้างหัวเราะ มันอยู่ด้วยแล้วสนุกอ่ะ เครียดกับการทำงานแล้วได้มาคุยกับคนที่คุยแล้วสนุกแบบนี้ มันลืมความเครียดไปเลย ใครๆ ก็อยากอยู่ด้วย จริงไหม? หรืออาจเป็นประเภทที่มีความสามารถ เป็นผู้หญิงทำงานเก่ง ร้องเพลงเก่ง ทำอาหารเก่งเป็นแม่ครัวหัวป่าก์จนผู้ชายหนีไปไหนไม่พ้น หรือเป็นผู้หญิงประเภทที่ยิ้มสวยจนโลกทั้งใบละลายก็เป็นได้
‘การรู้จักตัวเอง’ ถือเป็นเรื่องสำคัญมากๆ มากพอๆ กับการฝันแล้วทำเป้าหมายให้สำเร็จ เพราะถ้าเรารู้ว่าตัวเราเองเด่นด้านอะไร ก็ทำจุดเด่นของตัวเองให้ไปถึงจุดสูงสุดตามความฝันที่วางเอาไว้ แต่น่าเสียดายที่จุดเด่นเรื่องหน้าตาดี เป็นดารา เป็นเน็ตไอดอล กลับเห็นผลในเรื่องเป็นหน้าตาของสังคมและเป็นที่โด่งดังชัดกว่าจุดเด่นอย่างอื่น แต่การเป็นตัวของตัวเองนั้น มีแค่เราคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้นะ เพราะงั้นสาวๆ ทั้งหลาย รีบหาจุดเด่นของตัวเอง แล้วแสดงพลังจุดเด่นของเราที่มีเพียงเราคนเดียวที่มีออกมาเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของเราดีกว่า ผู้ชายเขาชอบผู้หญิงที่มั่นใจในความเป็นตัวของตัวเองนะจ๊ะ
คำเตือน! เป็นตัวของตัวเองในที่นี้ ก็ไม่ได้หมายถึงความสกปรกซกมก พูดจาหยาบคาย แล้วมาบอกว่า “ก็เราเป็นคนตรงๆ” แบบนี้นะ! อันนี้มันเป็นสิ่งที่ควรพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นต่างหากล่ะ
“ฝึกยิ้มเยอะๆ”
เคยเดินผ่านใครสักคน แล้วเค้ายิ้มมาให้ไหม? อย่างเช้าวันจันทร์ตื่นมาแบบง่วงๆ ระหว่างทางเดินไปออฟฟิศที่ทำงานแบบเนือยๆ เดินผ่านใครคนนึงแล้วอยู่ๆ เค้ายิ้มให้ มันรู้สึก Feel Good ขึ้นมาเลยนะ ซักนิดนึงแหละ และยิ่งถ้าเป็นหนุ่มหน้าตาดี โอ้โห.. เช้าวันนั้นเบิกบานเลยทีเดียวเชียวล่ะ
ฉะนั้น ถ้าเราอยากให้คนอื่นรู้สึกดีกับเรา เราก็ต้องฝึกยิ้ม! ยิ้มไปเลย ที่นี่ “สยามเมืองยิ้ม” ยิ้มกับเพื่อนๆ คนที่อยู่ใกล้ๆ กัน เพื่อนข้างโต๊ะ ถ้าให้ดีหน่อย ยิ้มให้คนที่เดินผ่านไปมา ไม่ต้องคิดว่ารอยยิ้มของเรามีจำกัด รอยยิ้มเปรียบเสมือนการยิงปืนกระชากใจให้คนที่มองรอยยิ้มของเราโดยไม่รู้ตัว เขาจะรู้สึกดี และรู้สึกว่าเรามีเสน่ห์ เราไม่ต้องกลัวว่าเค้าจะไม่ยิ้มกลับ อย่างน้อย คนที่โดนเราส่งยิ้ม เขารู้แล้วว่า “เราเป็นคน Friendly” คงดีถ้าได้รู้จักกันมากกว่านี้..
ที่นี่ “สยามเมืองยิ้ม” โปรยรอยยิ้มไปเลยค่ะสาวๆ รอยยิ้มของเราอาจเป็นรอยยิ้มที่ทำให้โลกของใครบางคนละลายก็ได้นะ 🙂 แต่ที่สำคัญอย่าลืมทัศนคติที่เป็นมิตรด้วย เวลายิ้มจะดูมีชีวิตชีวา ไม่ได้ยิ้มแห้งๆ เนอะ
“ชวนคุย”
ผู้หญิงที่นั่งนิ่งๆ เป็นมุมมืด แผ่ออร่าสีดำปกคลุม และยิ่งถ้าหน้าตาไปวัดไปวาไม่ได้อีก ยากมากที่จะมีคนเข้ามาสนใจ สาวๆ The Passion ต้องสลัดออร่าสีดำออกไปกันนะคะ เอาออร่าสดใสเข้ามา ลองทักทายหรือพูดคุยกับคนอื่นก่อน มันเป็นการเริ่มต้นสร้างความสัมพันธ์และการผูกมิตรที่ดี ดูเป็นคนเข้าถึงง่าย ถ้าเราวางตัวเป็นเจ้าหญิงสูงส่งมากเกินไป หนุ่มๆ จะเกร็งจนไม่กล้าจีบ วิธีคือ ต้องน่ารักปนขี้เล่นค่ะ โปรยเสน่ห์ทักทายหนุ่มๆ บ้างให้เขารู้ว่า ‘จีบเราได้นะ’ เราไม่ได้หยิ่ง เข้าไม่ถึงอย่างที่คิด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเว้นระยะห่าง อย่าถึงเนื้อถึงตัวมากไปจนดู “ง่าย” ไปล่ะ
“รู้จักกาลเทศะ”
แม้ว่าเราฝึกทัศนคติ ฝึกยิ้ม ฝึกพูดคุยแล้ว แต่เรากลับไม่รู้กาลเทศะ อย่างคุยเสียงดังในรถไฟฟ้า ยิ้มแย้มในงานศพ สิ่งที่เราคิดว่าทำไปแล้วมีเสน่ห์ จะกลายเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจไปในทันที เกมพลิกเลยนะคะสาวๆ รู้กาลเทศะ คือ เราต้องดูสิ่งแวดล้อมรอบข้าง สถานการณ์ตอนนั้นควรวางตัวอย่างไร เช่น ในงานประชุม งาน Talk Show ในโรงภาพยนตร์ ต้องเงียบ ห้ามคุย หรืองานแต่งงานต้องแต่งตัวรับความมงคล งานศพต้องใส่เสื้อดำหรือขาว ไม่ใช่เราอยากเด่นแต่งตัวเต็มที่สีสันสดใสมา อันนี้ผิดจุดมากนะคะ!
“ดูแลตัวเอง”
เอาจริง ๆ หน้าตาในยุคนี้ก็สำคัญ แต่จากประสบการณ์การใช้ชีวิต สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือ “การดูแลตัวเอง” ต่อให้เรามีทัศนคติเป็นมิตรต่อผู้อื่น ยิ้มแย้ม แต่การแต่งตัวแย่ กลิ่นตัว หรือกลิ่นปาก ไม่โอเคมาก! เสน่ห์จาก 100 ก็ลดเหลือ 3 ได้เลยนะ จำไว้เลยนะคะ ผู้หญิงที่หนุ่มๆ ชอบ ต้องเป็นคนที่ดูแลตัวเอง หัดพกกระจก คอยส่องว่ามีอะไรติดฟันไหม ทาลิปเลอะไหม แต่ไม่ใช่ส่องตลอดเวลานะเขาจะรำคาญเอา! หวีผมให้ไม่กระเซอะกระเซิง ซับหน้ามันบ้าง แต่งตัวให้เหมาะกับรูปร่าง ไม่รัดติ้ว หรือเสื้อผ้ามอซอ มีกลิ่นเหม็นอับ
การดูแลตัวเองไม่จำเป็นต้องศัลยกรรม แค่ต้องใส่ใจเรื่องความสะอาด ดูแลตัวเองอย่าง ทาครีมบำรุง สครับผิวบ้าง ตัดแต่งเล็บให้สะอาดอยู่เสมอ แปรงฟันให้สะอาด เพราะกลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลกนะคะ นอกจากนั้นก็มีฉีดน้ำหอม เลือกน้ำหอมที่ใช่ กลิ่นที่หอมช่วยในการดึงดูดได้นะ แต่ต้องไม่ฉีดมากจนจากน้ำหอมกลายเป็นลูกเหม็นเอานะ เอาแค่หอมอ่อนๆ พอให้อยากเข้ามาดมใกล้ๆ ก็พอ อุ้บส์.. และอย่าลืมออกกำลังกายทุกวัน ให้หุ่นดี ค่อยเป็นค่อยไป แต่อย่าหยุด อย่าหักโหมนะจ๊ะ
สุดท้าย “ได้เวลาเปิดตัว!!!”
จะมีประโยชน์อะไร ถ้าเราพัฒนาเสน่ห์เพื่อตัวเอง แต่ไม่มีใครเห็นในโลกความเป็นจริงเป็นเรื่องเป็นราว จึงต้องมีการ “เข้าสังคม” กันหน่อย เช่น งานปาร์ตี้ งานอีเวนท์ในไนท์คลับ งานคอนเสิร์ต งานสังสรรค์ เป็นต้น การเข้าสังคมดีกว่าการเดินไปเปลื่อยๆ ในที่ที่มีผู้คนเยอะๆ เพราะเราจะรู้ได้ว่า คนในงานล้วนมีความสนใจเดียวกัน อย่างเช่น เราเป็นนักเขียน เราก็ต้องเข้าไปในงานหนังสือ พบปะผู้คน คุยกันเรื่องหนังสือ เราเป็นเกมเมอร์ เราก็เข้าไปในงานเกม มันมีความคล้ายกัน สนใจเรื่องเดียวกันไง เราเป็นนักเที่ยวยามค่ำคืนที่ชื่นชอบเพลงจาก DJ ต่างประเทศ ก็เข้าไปในไนท์คลับ เสียงอาจจะดังบ้างแต่คนที่ใจรักจริงๆ เรื่องเสียงเป็นแค่เรื่องจิ๊บๆ เมื่อเราพูดคุยแล้ว เราก็ขอเบอร์ ขอไลน์บ้าง วิธีนี้ดูเหมือนจีบ แต่มันใช้ได้เวลาสานสัมพันธ์ ต่างประเทศเขาก็ทำกันแบบนี้แหละ
ป.ล. อาจมีผู้ชายที่ไม่กล้าทักเราตรงนั้น เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันเลิศ เขาอาจจะตามมาทักใน IG Facebook ก็ได้ ดังนั้น ไปไหนอย่าลืม Check In หรือ Tag โลเคชั่นนะ เขาจะได้ตามหาเราเจอ 🙂
