เคยไหมคะ? เวลาที่เราเรียนหรือทำงานไปสักพัก จากคนที่เคยมีไอเดียหรือมีพลัง มันจะมีช่วงหนึ่งที่เรากลับไม่อยากทำงานและเบื่อขึ้นมาดื้อ ๆ ซะงั้น บางครั้งก็รู้สึกเหมือนกับพลังงานที่มีในตัวมันกำลังจะหมดไป เหมือนกับถ่านที่ค่อยมอดลง เชื่อเหลือเกินว่าหลาย ๆ คนคงต้องเคยประสบปัญหานี้และสงสัยว่าตัวเองกำลังเป็นอะไรอยู่นะ บอกก่อนเลยว่าหากเช็คอาการเหล่านี้แล้วดันตรงกับคุณสาว ๆ ขึ้นมา บอกก่อนเลยว่าคุณกำลังเผชิญกับภาวะ หมดไฟ นั่นเอง แล้วเจ้าภาวะ หมดไฟ ที่ว่านี้คืออะไร ?  น่ากลัวหรือไม่ ? หากเป็นแล้วจะแก้ได้หรือเปล่า ? วันนี้ The Passion จะพาสาว ๆ มาหาคำตอบกันค่ะ

“ภาวะ หมดไฟ “ เป็นภาวะหนึ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างที่เราเรียนหรือทำงาน ซึ่งจริง ๆ แล้วมีทฤษฎีทางจิตวิทยาที่กล่าวถึงภาวะหมดไฟนี้ไว้มากมาย หนึ่งในนั้นคือ สตีเฟ่น ฮอบฟอล นักจิตวิทยาที่เป็นเจ้าของงานวิจัยชื่อ  Conservation of Resouce Model หรือ รูปแบบการป้องกันการสูญเสียทรัพยากร ฟังแล้วก็เหมือนทฤษฎีเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์อย่างใดอย่างนั้น แต่เปล่าเลย เจ้าทฤษฎีนี้ได้อธิบายเอาไว้ว่า การที่มนุษย์เราพยายามจะรักษาสิ่งของที่มีอยู่หรือรักษาระดับทรัพยากรของเรา ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า รองเท้า บ้าน หรือแม้กระทั่งลักษณะนิสัยของเราอย่างเช่น ความภูมิใจ ความมั่นใจในตนเอง ย่อมทำให้มนุษย์เกิดความเครียด และความเครียดนี้เองที่เป็นบ่อเกิดของ “ภาวะหมดไฟ” ที่หลาย ๆ คนกำลังเผชิญกัน

หมดไฟ
classycareergirl.com

หากจะอธิบายให้ภาพเพื่อให้ทุกคนเข้าใจมากขึ้น “ภาวะหมดไฟ” ก็เหมือนกับการที่เราทำงานหนักมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทรัพยากรที่เรามีอยู่ ในที่นี่ก็คือพลังงานในตัวเราค่อย ๆ หมดหรือดับมอดลงไปทีละนิด อย่าลืมนะคะว่า มนุษย์เราก็ต้องการชาร์ตพลังไม่ต่างจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเลย เวลาเราเล่นโทรศัพท์ แน่นอนว่าแบตเตอรี่ก็ต้องค่อย ๆ หมดลงไป เช่นเดียวกันค่ะ หากเราทำงานหรือเรียนอย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่มีเวลาได้พักเลย ร่างกายคนเราก็จะค่อย ๆ หมดไฟไปทีละนิด จนในที่สุดไฟในตัวที่มีก็จะดับมอดลงไป

wellandgood.com

อ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงอยากทราบกันแล้วว่า เจ้าอาการหมดไฟนี้มันจะส่งกระทบต่อชีวิตของเราอย่างไรบ้าง? คำตอบก็คือ เนื่องจากพลังงานที่มีในตัวเราค่อย ๆ หมดลง ทำให้ความสามารถในการจัดการกับเรื่องต่าง ๆ ของเราแย่ลงตามไปด้วย นอกจากนี้ร่างกายของเราอาจรู้สึกว่าไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไร ไม่อยากออกไปไหน แถมจิตใจก็ค่อย ๆ อ่อนล้าลงไปทุกที ๆ ยิ่งใจอ่อนล้า จัดการปัญหาก็ไม่ได้ ร่างกายก็ยิ่งเครียด และเมื่อเรายิ่งเครียดก็จะทำให้เราอยู่ในวังวนของอาการหมดไฟนี้ไปไม่มีที่สิ่นสุดนั่นเอง

มนุษย์เราไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำงานหรือใช้ร่างกาย ความคิดแบบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็น ทำให้เราต้องมีเวลาพักเพื่อให้ร่างกายของเราพักฟื้นกันบ้าง วันนี้เราจะพาสาว ๆ มาดูกันค่ะว่า ทำอย่างไรเราถึงจะเติมไฟให้กับร่างกายและใจ เพื่อให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิม พร้อมแล้วก็ไปดูด้วยกันเลย !

# 1. ให้เวลาตัวเองกับสิ่งที่ชอบ

แน่นอนว่า คนเราเวลาอยู่ก้บอะไรที่ชอบ ย่อมทำให้จิตใจเรามีความสุขอยู่แล้ว หากร่างกายเราตึงนักก็พักซะบ้าง ลองออกมาจากสถานการณ์ที่เครียดแล้วดึงตัวเองไปอยู่กับสิ่งที่เราชอบ ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมงานอดิเรกในวันหยุดอย่างเช่น ร้องเพลง ดูหนัง ช้อปปิ้ง ทำอาหารหรือท่องเที่ยวรอบโลก เป็นต้น กิจกรรมเหล่านี้เป็นกิจกรรมที่ดีที่จะช่วยให้สาว ๆ ได้ enjoy กับตัวเองโดยปราศจากความกังวลใด ๆ เมื่อเราได้อยู่กับสิ่งที่เราชอบแล้ว จะช่วยให้เรามีพลังกลับมาทำงานได้ดังเดิมนั่นเองแต่ว่า ! สิ่งสำคัญที่สาว ๆ ควรต้องระวังคือการที่สาว ๆ นั้นต้องปล่อยวางภาระปัญหาจริง ๆ เมื่อพักผ่อนแล้วก็ให้การพักผ่อนได้เยียวยาจิตใจ เก็บเรื่องที่ต้องคิดไว้ก่อน แล้วสาว ๆ จะมีความสุขกับการเติมพลังในครั้งนี้แน่นอนค่ะ

@womensbest

# 2. หยุดการเชื่อมต่อกับโลกอินเตอร์เน็ตซะบ้าง

อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าโลกออนไลน์นั้นมีประโยชน์ต่อเรามากมาย แต่ในทางกลับกัน การที่เราเสพติดและเอาตัวเองไปอยู่ในโลกเหล่านี้มากเกินไป ย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจเราอยู่แล้ว เข้าใจว่า สาว ๆ ในยุคปัจจุบัน จำเป็นจะต้องมีการติดต่อสื่อสารกับคนรอบตัวหรือที่ทำงานตลอดเวลา บางครั้งก็ต้องเช็คไลน์ เช็คอีเมลล์จนกลายเป็นว่า รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นคนวางโทรศัพท์ลงจากมือไม่ได้ซะแล้ว การที่เราเชื่อมต่อโลกออนไลน์ตลอดเวลานั้น ไม่เพียงแต่ส่งผลเสียต่อร่างกายเรา คือทำให้เรานอนไม่หลับแล้ว ยังส่งผลต่อจิตใจของสาว ๆ คือ จะทำให้สาว ๆ เกิดความเครียดมากขึ้นนั่นเอง พ้อยด์คือ มันจะเกิดความเครียดได้อย่างไร? ลองคิดตามนะคะ หากเราเล่นเฟสบุ๊คตลอดเวลาและเห็นเพื่อน ๆ โพสถึงชีวิตดี ๆ การทำงานดี ๆ แน่นอนว่ามันจะเกิดการเปรียบเทียบกับตัวเราอย่างอัตโนมัติ และทำให้เราต้องกดดันตัวเองจนเกิดเป็นความเครียดสะสมได้นั่นเอง ทางที่ดีควรจะถอดปลั๊กทุกอย่างสักพัก แล้วกลับมาอยู่ในโลกความเป็นจริงเสียหน่อย รับรองว่าชีวิตจะดีขึ้นอย่างที่ตัวคุณเองก็ต้องแปลกใจเหมือนกันแน่นอนค่ะ

@womanslook

# 3. เริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ

คนเรา หากจมกับสิ่งเดิม ๆ ย่อมทำให้เกิดความเบื่อหน่ายและเหนื่อยล้าทางจิตใจได้ หากเราเปิดโอกาสให้ตัวเองเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน บางทีก็เป็นการช่วยให้เราผ่อนคลายได้เหมือนกันนะคะ สาเหตุก็มาจาก การที่เราเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่ จะทำให้เรากระตือรือล้นและสงสัยในสิ่งนั้นมากขึ้น หากแต่สาว ๆ จะต้องไม่กดดันตัวเองหรือมีความคาดหวังกับสิ่งนั้นมากเกินไปจนทำลายเป้าประสงค์แรกของการเรียนรู้สิ่งนั้น ๆ ไม่แน่นะคะ การที่เราได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ อาจทำให้สาว ๆ ค้นพบตัวเองมากขึ้นก็เป็นได้

@womanslook

# 4. เพิ่มความรู้ให้กับตัวเอง

เคยเป็นไหมคะ หลายครั้งที่เราหงุดหงิดตัวเองเวลาที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ นั่นเป็นหนึ่งสัญญาณที่กำลังบอกว่าเรามีความรู้ในสิ่ง ๆ นั้นเพียงพอนั่นเอง ความรู้สึกหงุดหงิดตัวเองที่ว่านี้ มันก็คือการที่เรารู้สึกว่าตัวเองยังไม่ดีพอ ส่งผลให้เรากลายเป็นคนที่ไม่พอใจในตัวเองนั่นเอง เคล็ดลับง่าย ๆ ในการแก้อาการเหล่านี้ก็คือ สาว ๆ ต้องไปเพิ่มความรู้และทักษะที่เราขาดได้กับตัวเราค่ะ หากแต่สาว ๆ ต้องรู้ก่อนว่าตัวเองบกพร่องเรื่องไหนและควรเพิ่มติมเรื่องอะไร เช่น หากเรารู้ตัวว่าเป็นคนที่พรีเซนท์งานต่อหน้าคนอื่นไม่เก่ง เราอาจจะไปหาหนังสือหรือคลิปวิดีโอที่เกี่ยวกับพูดมาศึกษา เพื่อให้ตัวเองมีองค์ความรู้ในเรื่องนั้น ๆ มากขึ้น เป็นต้น หากเราเพิ่มเติมความรู้ให้กับตัวเองเสมอ จะทำให้สาว ๆ กลายเป็นคนที่มีความรู้ใหม่ ๆ คอยอัพเดท อีกทั้งยังจะเป็นคนที่ไม่มีวันหยุดเรียนรู้อีกด้วยค่ะ

@womanslook

# 5. ทำแบบทดสอบจิตวิทยา

ไม่มีใครไม่อยากรู้จักตัวเองหรอก จริงไหมคะ? หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าการทำแบบทดสอบทางจิตวิทยานั้นจะช่วยให้เรามีไฟได้อย่างไร ? คำตอบก็คือ การที่เรารู้จักและเข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนของเรา จะทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น และเมื่อเราเข้าใจตัวเองมากขึ้นเราก็สามารถจัดการกับตัวเองเวลาที่เผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ได้ เมื่อเราสามารถจัดการกับปัญหารอบตัวของเราได้ ความเครียดที่เป็นบ่อเกิดของภาวะหมดไฟก็จะถูกทำลายลง จนทำให้อาการหมดไฟที่เกิดขึ้นกับตัวเราค่อย ๆ ดีขึ้นนั่นเองค่ะ

steinhardt.nyu.edu

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสาระที่เราเอามาฝากสาว ๆ ในวันนี้ อย่างที่เรารู้กันดีว่า การพัก แม้จะทำให้เราเสียเวลาไปบ้างแต่ก็เป็นหนึ่งในวิธีหลักที่ช่วยให้อาการหมดไฟในตัวเราดีขึ้น ร่างกายและจิตใจต่างก็ต้องการการพักผ่อนทั้งสิ้น หากเรามีเวลาดูแลเอาใจใส่ คอยเติมไฟให้ร่างกายและจิตใจของเราอยู่เสมอ เราจะเป็นคนหนึ่งที่มีพลังงานและมีไฟในตัวจนกลายเป็นคนร้อนรนกับทุกสิ่งรอบตัวได้ขอให้เชื่อในตัวเอง เหนื่อยก็พัก หากมีแรงแล้วค่อยทำต่อ เป็นหลักการง่าย ๆ ในชีวิตที่หลาย ๆ คนมองข้ามไป ขอพลังจงอยู่กับสาว ๆ The Passion ทุกคนนะคะ