ถ้าอยู่ๆ มีหนุ่มส่งยิ้มให้ ทักมาคุย ช่วยเหลือนู่นนี่ตามสไตล์ผู้ชาย Friendly มีหรอผู้หญิงอย่างเราๆ จะไม่หวั่นไหว.. บางทีเลยเถิดไปถึงขั้น มโน ว่า เขาต้องคิดอะไรกับเราแน่ๆสาวๆ จ๋า สติ! นะคะ จะมโนเก้ออยู่ฝ่ายเดียว เจ็บอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้ วันนี้ The Passion เลยมีเรื่องราวนิสัยของหนุ่มๆ 6 อย่าง ที่ทำให้ผู้หญิงจิตใจอ่อนไหวอย่างเรานั้นมักคิดไปไกลจนมันทำร้ายใจตัวเองมาฝากกัน ดูไว้จะได้ไม่เผลอใจมโนไปเองนะจ๊ะ 

 

1. ไปไหนมาไหนเป็นเพื่อน ชวนไปดูหนังกันสองคน

ดูหนังสองต่อสอง
thatssoyestreday.blogspot.com

ผู้ชายที่อยู่ในสเตตัส ‘Available’ พร้อมออกไปไหนมาไหนเป็นเพื่อนตลอดค่ะ อยากทำอะไรบอก ไปด้วย แต่ไม่ได้หวังจะจีบ แค่เป็นเพื่อนที่ดี และยิ่งชวนไปดูหนังกันสองคนเนี่ย สาวๆ อาจมีคิดว่ามันแปลกๆ นะ แต่สำหรับผู้ชายนั้นมีสองกรณี คือ ชวนเพราะอยากเจอ หรือชวนไปดูหนังเพราะอยากดูหนังแค่นั้นแบบ Just Friend ถ้าว่างก็ไปด้วยกัน แต่ถ้าไม่ เดี๋ยวชวนคนอื่นไป หรือไปคนเดียวก็ได้ ซึ่งผู้หญิงจะมีชุดความคิดในใจไปเองว่า ชวนไปดูหนัง เท่ากับ ชวนออกเดท ทั้งที่จริงๆ ไม่มีอะไรเลย การได้อยู่ใกล้กันบ่อยๆ แบบนี้ สาวๆ ที่แพ้ความใกล้ชิดก็ระวังไว้ อย่าไปคิดไกลจน มโน อยู่ฝ่ายเดียวล่ะ

 

2. ช่วยเหลือ เอาใจใส่ เทคแคร์

เชื่อว่ามีหลายคนที่ต้องเคยหวั่นไหวกับเพื่อนผู้ชายสายเทคแคร์แบบนี้ คือ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่พอสังเกตไป สังเกตมา ก็รู้สึกว่า เอ้.. ทำไมหนุ่มคนนี้ชอบมาช่วยเราตลอดเลยล่ะ หิ้วของให้บ้าง ซื้อของมาฝากบ้าง ขับรถไปส่งบ้าง และมีคำถามพวก “กลับยังไง ไปส่งมั้ย” “ถึงบ้านแล้วโทรมาด้วย” หวั่นไหวนิดๆ เลยใช่มั้ยล่ะ? ยิ่งเป็นผู้หญิง ยิ่งชอบถูกเทคแคร์อยู่แล้วเนอะ แต่ก่อนจะรู้สึก! ดูดีๆ ก่อนว่าจริงๆ แล้วเขาทำกับทุกคนเหมือนกันหมด เห็นเราเป็นเพื่อน อยากเป็นสุภาพบุรุษที่ดูแลสุภาพสตรี หรืออาจเป็นนิสัยคนชอบช่วยเหลือคนอื่นแบบนี้อยู่แล้วหรือเปล่านะ? และถ้าของที่ได้มาไม่ได้พิเศษกว่าใคร ก็หมายความว่าไม่มีอะไรมากไปกว่าคำว่า เพื่อน นะจ๊ะ

 

3. ลูบหัว เล่นผม แตะนู่น แตะนี่

เคยไหม คุยเล่นกันอยู่ดีๆ เขาก็เอามือมาจับหัว ลูบหัว สำหรับคนที่ไม่ชอบคนเล่นหัว อาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่! สำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่นั้น เจอช็อทนี้เข้าไปหัวใจแทบระทวยกันเลยทีเดียวล่ะ เพราะมันรู้สึกเหมือนมีคนมาเอ็นดู ได้รับการปกป้อง รู้สึกตัวเองตัวเล็กนิดเดียว โมเม้นต์แบบนี้ชวนคิด ชวนฝัน จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือพี่ชาย สุดท้ายก็จะมาจบด้วยการเพ้อไปไกลอยู่ฝ่ายเดียว (ฝากคุณผู้ชายไว้นะคะว่า ถ้าไม่คิดอะไรก็อย่าทำแบบนี้ เพราะโมเม้นต์นี้คุณผู้หญิงแพ้มานักต่อนักแล้วค่ะ)

ส่วนเรื่องการแตะนู่นแตะนี่ หรือที่เรียกว่า Skinship (สกินชิพ) ก็เป็นโมเม้นต์น่าคิดอีกเหมือนกัน ก็ผู้ชายที่ไหนจู่ๆ จะมาแตะเนื้อต้องตัวสาวๆ ถ้าไม่ได้คิดอะไรล่ะจริงไหม? แต่ความจริงแล้วเขาก็อาจไม่ได้คิดอะไร เพราะการสกินชิพทำให้รู้สึกสนิทสนมกันมากขึ้น เขาอาจทำเพื่อต้องการตีสนิทให้เร็วขึ้น และก็มักนิยมทำกับเพศเดียวกัน เลยหมายความว่า ถ้าเขามาทำกับคุณก็มีอยู่ 2 อย่าง คือ ถ้าไม่ใช่ว่าชอบแบบคนรัก ก็แสดงว่าไม่ได้คิดอะไรเลย แถมยังไม่ได้มองว่าเป็นผู้หญิงด้วยซ้ำ จุกไปสิ

 

4. ส่งยิ้มหวานให้

การยิ้มมันเป็นการส่งความรู้สึกที่ Positive ให้กัน ยิ่งถ้าหนุ่มๆ ยิ้มหวานมาให้บ่อยๆ แล้วล่ะก็ อาจรู้สึกดีกับเขา หรือเริ่มมโนว่า ‘ถ้าไม่ได้คิดอะไร แล้วจะยิ้มให้ทำไมบ่อยๆ?’ สาวๆ หลายคนคงเคยมีคำถามแบบนี้ใช่ไหมล่ะ แต่ลองคิดดูดีๆ กับคนที่เราไม่รู้จัก ครั้งแรกเราก็ยิ้มให้นะ หรือคนที่เห็นหน้าเห็นตากันอยู่บ่อยๆ ในออฟฟิศ เดินผ่านกันแล้วจะไม่ให้ยิ้มให้กันก็อาจดูหยิ่ง ดูไม่น่าคบ แค่นั้นแหละ เลยเป็นเหตุผลที่ว่าเขาอาจต้องการผูกมิตรแบบเพื่อนมนุษย์ธรรมดาทั่วไปก็ได้ หรือถ้าจะอ้างว่า แต่เขาทำบ่อยๆ นะ จู่ๆ ก็หันมายิ้มให้ด้วย งั้นแสดงว่าคุณก็คงเป็นคนที่เขาให้ความเกรงใจและเคารพแบบสุดๆ เลยล่ะ

 

5. มองตาแบบนี้ คิดอะไรหรือเปล่า?

อย่ามองตาได้ไหม ถ้าเธอไม่แคร์… เพลงยังมีบอก! ทฤษฎีก็ยังมี ทฤษฎีจ้องตากัน 8 วินาที ก็อาจตกหลุมรักกันได้! การมองตานานๆ เนี่ยก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้สาวๆ รู้สึกหวั่นไหวแบบที่สุด ปกติแล้วคนเวลาคุยกันจะมองกันได้ไม่เกิน 5 วิ หรอก ส่วนใหญ่ก็จะแกล้งทำนู่นทำนี่ หันไปทางอื่นบ้าง แกล้งหัวเราะกลบเกลื่อนเพื่อปิดบังสายตาบ้าง แต่ถ้าคนไหนที่ค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง พูดเก่ง ตอนคุยกันมักจะจ้องตาแบบไม่ละสายตา มองตาตลอด ณ จุดนี้แหละ มักจะทำให้สาวๆ อย่างเราเป็นฝ่ายที่อายจนต้องหันไปทางอื่นแทนแน่นอน สำหรับใครที่เจอหนุ่มๆ ที่เป็นแบบนี้ แล้วเราก็ปิ๊งล่ะก็ แนะนำว่าให้จ้องกลับไปเลย ถึงตอนแรกเขาจะไม่คิดอะไร แต่ถ้าทำบ่อยๆ ล่ะก็ อาจมีการสปาร์คตามที่ทฤษฎีบอกมาก็ได้นะ ลองดู

 

6. ทักแชทมาคุยทุกวัน

อันนี้บอกเลยว่าทำให้ผู้หญิงอย่างเราๆ สับสนได้มาก อยู่ดีๆ ก็ทักแชทมา “สบายดีไหม” “เป็นไงมั่ง” หยอดนิดหยอดหน่อย มันก็ต้องมีคิดนิดนึงแหละว่าต้องการอะไรไหมนะ? และยิ่งคุยทุกวัน ยิ่งเข้าไปใหญ่ ก็เพื่อนกันปกติที่ไหน จะมาคุยกันได้ตลอดเวลาอย่างนั้นล่ะ ยิ่งเป็นผู้ชายกับผู้หญิง ยิ่งต้องมี Something Wrong อยู่แล้ว แต่บอกเลยว่าสำหรับเขา ไม่มีหรอก บางทีเขาอาจจะเห็นเราเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่ง หรือน้องสาว เลยทักมาอัปเดตชีวิตกันและกัน จริงๆ แล้วเพศชาย ก็เป็นเพศที่ชอบพูดมากนะ แต่ไม่ค่อยมีโอกาส พอรู้ว่ามีใครสักคนที่พร้อมจะรับฟังเขาได้เต็มที่ ก็เลยตามมาทักแชทเพื่อจะได้เล่าถึงสิ่งที่เจอในแต่ละวันมานี่แหละ หรือมาปรึกษา ไม่มีอะไรหรอก เอาง่ายๆ ก็คือ หาคนโม้ให้ฟังอ่ะนะ หรือถ้าให้แย่ก็คือ เหงา เลยทักมาชวนคุยนู่นนี่ แต่ที่แย่ยิ่งกว่าคือ เห็นเราชอบเขา เลยทักมาเช็คเรตติ้ง คุยจนเรายิ่งชอบเขามากขึ้นเรื่อยๆ ปล่อยให้รอเก้อ เพ้อเก้อ แล้วเขาก็หายไป

 

นิสัย Friendly 6 ข้อเหล่านี้ของผู้ชายนี่แหละ ที่ทำให้คุณผู้หญิงคิดไปไกลกว่า Friend Zone แต่จริงๆ แล้วเขาก็ไม่ผิดหรอก อาจจะแค่เฟรนด์ลี่เกินไปแค่นั้น ยังไงสาวๆ แบบเราก็ต้องมีสติ อย่าเพิ่งหลงไปกับคำหวาน การกระทำชวนคิดเหล่านั้น สังเกตดูบริบทอื่นๆ ว่าเขาทำกับคนอื่นเหมือนเราหรือเปล่า เป็นปกติของเขาไหม ให้ได้คำตอบที่ชัดเจนขึ้นก่อนที่จะมโนไปเรื่อย เป็นผู้หญิงสวยไม่พอ ต้องฉลาด การที่ขี้มโนไปเอง อาจทำให้ฝ่ายชายเขารำคาญได้นะ และในขณะเดียวกันคุณผู้ชายก็ควรแสดงท่าทีให้ชัดเจนด้วยนะจ๊ะ คุณผู้หญิงเขาจะได้ไม่คิดมาก