‘ จิออร์ดาโน่ เลดี้ส ’ (Giordano Ladies) อวดโฉมคอลเลกชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2018 ที่มีชื่อว่า ‘บี เฮียร์ นาว ; ดิ อาร์ต ออฟ สโลว์เนส’ (Be Here Now ; The Art of Slowness) แรงบันดาลใจจากหญิงสาวผู้เพลิดเพลินกับสิ่งงดงามรอบตัว
ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ แต่ถ้าหากเราเลือกที่จะจดจำสัมผัสของความงดงามเหล่านั้นไว้ แน่นอนว่าสิ่งนั้นก็จะสร้างความเอมอิ่มใจให้เราได้อย่างไม่รู้ลืม ซึ่งแนวคิดดังกล่าวได้ถูกนำมาต่อยอดสร้างสรรค์เป็นไอเดียหลักในการออกแบบเสื้อผ้าคอลเลกชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2018 ของ ‘ จิออร์ดาโน่ เลดี้ส ’ (Giordano Ladies) ที่มีชื่ว่า ‘บี เฮียร์ นาว ดิ อาร์ต ออฟ สโลว์เนส’ (Be Here Now The Art of Slowness)
ถ่ายทอดเป็นแคชชวลแวร์สไตล์มินิมอลที่แฝงไปด้วยความแฟมินีนตามแบบฉบับของหญิงสาวผู้ดำเนินชีวิตอย่างชาญฉลาด พร้อมอวดโฉมให้คนไทยได้ชมพร้อมกันแล้ววันนี้ ภายใต้การดูแลของ ปรีดาพร แสงสีเรืองรอง ผู้จัดการแบรนด์จิออร์ดาโน่ เลดี้ส์ ประเทศไทย
‘จิออร์ดาโน่ เลดี้ส’ (Giordano Ladies) แบรนด์เสื้อผ้าสตรีจากเกาะฮ่องกงตั้งแต่ปี ค.ศ.1996 ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของความเรียบหรู ออกแบบเสื้อผ้าภายใต้ความคิดที่ว่า ‘ความสวยงามที่แท้จริงเริ่มต้นจากการมีสไตล์ที่ดี’ ถ่ายทอดมาเป็นงานดีไซน์ที่หญิงสาวผู้สวมใส่สามารถดูดีได้ในทุกโอกาสตั้งแต่ในชีวิตประจำวันจวบจนกระทั่งไปปาร์ตี้ในยามค่ำคืน
โดยคอลเลกชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2018 ‘บี เฮียร์ นาว ดิ อาร์ต ออฟ สโลว์เนส’ (Be Here Now The Art of Slowness) ทางทีมดีไซน์ได้หยิบยกแรงบันดาลใจจากหญิงสาวที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตอย่างอิสระ ผู้ดื่มด่ำกับความงดงามทางธรรมชาติและสิ่งเล็กๆ ที่อยู่รอบตัวจนทำให้ทุกวันกลายเป็นวันอันแสนพิเศษได้ และเสน่ห์อันน่าค้นหาของหญิงสาวผู้นี้ได้ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นเสื้อผ้าสไตล์มินิมอลผ่านการเลือกใช้เลือกใช้โทนสีที่เปรียบเสมือนตัวแทนของธรรมชาติจากหลากหลายแง่มุม มอบความเพลิดเพลินให้กับหญิงสาวที่สนุกกับการมิกซ์แอนด์แมทช์ได้อย่างไม่รู้จบ
ความงดงามของวิวทิวทัศน์ยามพระอาทิตย์ขึ้นที่สะท้อนให้เห็นถึงโทนสีฟ้า สีน้ำเงิน และสีส้ม ได้ถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นเทคนิคคัลเลอร์บล็อกด้วยการเล่นสีที่ตัดกันระหว่างโทนสีอ่อนและสีเข้มที่อยู่ในเฉดเดียวกัน ถ่ายทอดลงบนเสื้อสเวตเตอร์ผ้าฝ้ายน้ำหนักเบาและกระโปรงตัวยาวแมทช์กับรองเท้าคัชชูหนังเปิดส้น สร้างลุคเด่นรับลมร้อนได้อย่างน่าสนใจ
รวมถึงโทนสีที่สื่อถึงอารมณ์และสัมผัสอันอบอุ่นอย่างสีเอิร์ธโทน ที่เกิดจากสีสันความงดงามของสวนสวยและหมู่มวลแมกไม้นานาพรรณ ก็ได้ถูกนำมาดีไซน์เป็นชิ้นเด่นประจำคอลเลกชั่นอย่างเสื้อโค้ทและกระโปรงอัดพลีทสีเขียวมอสส์ รวมถึงเบลเซอร์ลายทางและกางเกงเอวสูงในโทนสีธรรมชาติที่สร้างผิวสัมผัสอันโดดเด่นด้วยการเลือกใช้ผ้าลินิน อีกทั้งยังสวมใส่สบายเหมาะกับฤดูนี้
และโทนสีสดใสที่ได้แรงบันดาลใจจากห้วงมหาสมุทรและหาดทรายในดินแดนอันไกลโพ้น โดดเด่นด้วยสีฟ้าน้ำทะเล สีเหลืองของหาดทราย และสีส้มโทนร้อนจากไอแดด ได้ถูกนำมาถ่ายทอดลงบนเสื้อแขนกุดผ้าเดนิมฟอกสีกับกางเกงทรงคูลอต เพิ่มความเก๋ด้วยเทคนิคการไล่สีที่ตัดกันอย่างฟ้า-ขาว รวมถึงเสื้อไหมพรมประดับพู่ห้อยล้วนเป็นไอเท็มสำหรับนักเดินทางช่วงฤดูร้อนนี้
นอกจากนี้ ปรีดาพร แสงสีเรืองรอง ยังได้แนะนำถึงเทรนด์สีมาแรงในช่วงซัมเมอร์และเทคนิคการเลือกชุดไปเที่ยวสำหรับสถานที่ต่างๆ ว่า ‘โทนสียอดนิยมสำหรับซัมเมอร์จะเป็นสีเอิร์ธโทนหรือโทนสีตุ่นที่ให้ความรู้สึกสบายตา ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป เช่น สีฟ้าน้ำทะเล สีเขียวมอสส์ หรือสีโอโรส ซึ่งเสื้อผ้าที่สาวๆ ควรมีติดไว้ในช่วงซัมเมอร์นี้ก็คือชุดที่ทำจากผ้าฝ้ายหรือผ้าลินิน เพราะเป็นเนื้อผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดี
หากใครวางแผนไว้ว่าหน้าร้อนนี้จะไปเที่ยวพักผ่อนริมทะเล ก็อาจจะเลือกเป็นเสื้อผ้าที่เข้าชุดกันและโทนสีตัดกับน้ำทะเลจะได้ทำให้ถ่ายรูปสวยขึ้น เช่น เสื้อแขนห้าส่วนใส่กับกางเกงคูลอตประดับพู่ห้อยในโทนสีโอโรส ถือกระเป๋าสานเก๋ๆ สักใบ ช่วยทำให้ลุคดูสบายขึ้น หรืออาจจะเป็นชุดเดรสสั้นอัดพลีทสีขาวใส่กับหมวกปีกใบใหญ่ ก็เป็นลุคเรียบง่ายที่ดูดีได้ไม่แพ้กัน
แต่ถ้าหากใครชอบเที่ยวแบบชมวิวทิวทัศน์ของต้นไม้ ชอบปิกนิก หรือนั่งชิลล์ตามร้านกาแฟเก๋ๆ ก็อาจจะเลือกชุดที่มีดีไซน์น่ารักหน่อย เช่น ชุดแซกยาวห้าส่วนที่มีการเล่นเลเยอร์ของเนื้อผ้าเป็นระบายชั้นๆ หรือถ้าใครชอบความมินิมอลก็อาจจะใส่เป็นเสื้อกับกางเกงที่เข้าชุดกัน แต่อาจจะเลือกชุดที่มีลูกเล่นการเฟดโทนสีบนเนื้อผ้า จะได้ทำให้ลุคของเราน่าสนใจขึ้น’