ต้องยอมรับว่าสมัยนี้ หญิงเก่งรุ่นใหม่ มีเพิ่มขึ้นเยอะมากๆ อาจเป็นเพราะสังคมเปิดกว้างกว่าเดิม ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ผู้หญิงอย่างเราๆ จะได้แสดงศักยภาพของตัวเองได้เต็มที่
วันนี้ The Passion จะพาผู้อ่านไปรู้จัก หญิงเก่งรุ่นใหม่ จากวงการต่างๆ ที่กำลังมาแรง บอกเลยว่าทุกคนโดดเด่นในเวย์ของตัวเองแบบไม่มีใครแพ้ใครเลยล่ะค่ะ
แพร – วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา
เรียกว่าเป็นสาวเก่งและมาแรงแห่งยุคเลยก็ว่าได้ ‘แพร-วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา’ เพราะไม่ใช่แค่เป็นสาวไฮโซนามสกุลดังเท่านั้น แต่เธอยังมีผลงานส่วนตัวที่โดดเด่นและสร้างชื่อเสียงหลายด้านด้วย
สาวไฮโซสุดมั่นคนนี้เป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อเดียวกับตัวเองคือ VATANIKA โดยเธอควบตำแหน่งดีไซเนอร์เองด้วย สมกับที่เรียบจบด้านแฟชั่นและศิลปะมาโดยเฉพาะ โดยเธอผ่านการศึกษาด้าน Women’s Wear ที่ London College of Fashion แต่แล้วก็เบนเข็มไปเรียน Product Design and Development
ซึ่งแพรก็นำความรู้ที่เรียนมาสร้างแบรนด์จนดังติดระดับโลก ด้วยคุณภาพวัสดุที่ดีเยี่ยม การตัดเย็บที่เนี้ยบ และดีไซน์ที่เรียบแต่หรู มีทั้งที่ใส่ได้แบบ everyday look และออกงาน
ทั้งนี้ สิ่งที่สร้างชื่อให้คนรู้จัก แพร วทานิกา เพิ่มขึ้นอีกคือเรียลลิตีโชว์ “T้his Is Me VATANIKA” ที่เธอทำด้วยตนเองและมีแฟนคลับคอยติดตามจำนวนมาก จนใครๆ ก็รู้จักพี่เลี้ยงประจำตัวของเธออย่างสาจ๋า
ทุกวันนี้นอกจากแบรนด์ของตัวเองแล้ว แพรยังได้รับการรับเชิญให้ไป collapse ร่วมกับแบรนด์ระดับโลกอีกมาก อาทิ นาฬิกาแบรนด์ดังอย่าง Franck Muller แหม่ บอกเลยว่า เริ่ดมงลงจริงๆ ค่ะ
แพม – สิตามนินท์ สุสมาวัตนะกุล
พูดชื่อจริงหลายๆ คนอาจจะแค่คุ้นๆ แต่นึกไม่ออกว่าใคร แต่ถ้าพูดว่า ‘แพม ซูเปอร์ริช’ ล่ะก็ คงร้องอ๋อกันเป็นแถวๆ เธอคนนี้เป็นทายาทของธุรกิจแลกเงินระหว่างประเทศที่ชื่อว่า Super Rich (สีเขียว) นั่นเอง
แพม สิตามนินท์ จัดว่าเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมสุดๆ คนหนึ่ง นอกจากจะสวยเก๋แล้วยังโปรไฟล์เริ่ดอีกต่างหาก ตั้งแต่สมัยเรียน เธอเป็นถึงดาวคณะวารสารศาสตร์ฯ และเป็นเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ ด้วย
ด้านชีวิตส่วนตัว แพมเคยสมรสกับหนุ่มคนดัง ท็อป ณัฐเศรษฐ์ แต่ได้หย่าขาดจากกันแล้ว ปัจจุบันนี้ เธอทุ่มเทให้กับธุรกิจของครอบครัว และสนุกกับการเดินทางท่องเที่ยวแบบลุยๆ
ซึ่งแพมถือเป็นไอดอลของสาวๆ มานับตั้งแต่เธอยังเป็นนักศึกษาจนปัจจุบันอายุ 30 กว่าแล้วก็ตาม เพราะเธอสวย เก่ง เท่ และมีสไตล์แถม attitude ดีสุดๆ
ลิซ่า – ลลิษา มโนบาล
‘ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล’ สาวสวยวัย 22 ปีคนนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของคนไทย เพราะเธอเป็นเด็กสาวจากไทยคนเดียวที่สามารถฝ่าฟันการออดิชั่นสุดหินของ YG Audition เข้าไปอยู่ในค่ายเพลงดังในเกาหลี และได้เดบิวต์เป็นศิลปินของวง BLACKPINK
ความฮอตของลิซ่านั้นไม่ได้อยู่แค่ในเกาหลีหรือไทย แต่เธอดังระดับอินเตอร์ และมีแฟนคลับอยู่ทั่วโลก โดยล่าสุดนี้มียอด follower ใน IG ถึง 25.3 ล้านคน!!
เด็กสาวชาวบุรีรัมย์คนนี้ฉายแววเด่นด้านการเต้นให้เห็นตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้นประถม และไม่ใช่แค่พรสวรรค์เท่านั้น แต่เธอยังมีพรแสวงด้วย เพราะเธอไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง หมั่นเดินสายประกวดเก็บสกิลมาเรื่อยๆ จนประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้
นอกจากการเป็นศิลปินแล้ว ลิซ่ายังกวาดงานพรีเซนเตอร์ได้อีกมากมาย และพูดได้ถึง 4 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ เกาหลี และญี่ปุ่น
แม้จะมีชื่อเสียงระดับโลกแต่เธอก็ยังอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ จึงไม่แปลกเลยที่มีคนรักและเอ็นดูมากมายขนาดนี้
เล็ก – กรกนก ยงสกุล
สาวไฮโซสุดเนี้ยบอย่าง ‘เล็ก-กรกนก ยงสกุล’ เป็นอีกแรงบันดาลใจให้สาวๆ รุ่นใหม่ เพราะไม่เพียงแต่เธอจะสวยและมาดดีเท่านั้น เธอมอบความเก๋นี้แด่สาวๆ คนอื่นๆ ผ่านคอร์สพัฒนาบุคลิกภาพที่เธอเป็นผู้พัฒนาหลักสูตรด้วย
แม้เธอเป็นทายาทเจ้าของธุรกิจเรือยอร์ชสุดหรู ที่ต้องช่วยดูแลงานของครอบครัว แต่เธอก็ยังแบ่งเวลามาให้สิ่งที่เธอรักอย่างการพัฒนาตัวเองได้ โดยเธอเป็นผู้ก่อตั้งสถาบันสอนการแต่งตัวและพัฒนาบุคลิกภาพ RBL Training Academy โดยเธอจะเน้นให้สาวๆ มีทัศนคติที่ดีก่อนเป็นอันดับแรก และความมั่นใจต่างๆ จะฉายออกมาเอง
ตอนนี้คุณเล็ก กรกนก เข้าสู่ประตูวิวาห์ไปเรียบร้อยแล้ว แต่เธอก็ยังไม่หยุดทำงานและส่งต่อพลังบวกให้กับคนอื่นๆ ถือว่าเป็นสาวที่แพชชั่นแรงกล้าจริงๆ ค่ะ
นาม – ปรมา ไรวา
นามสกุลนี้อาจฟังดูคล้ายๆ นามสกุลของนักร้องหนุ่มไฮโซแห่งวง Getsunova ไม่ต้องแปลกใจไปค่ะ เพราะคุณ ‘นาม-ปรมา ไรวา’ เป็นน้องสาวแท้ๆ ของ เนม-ปราการ ไรวา นั่นเอง ซึ่งทั้งคู่ก็เป็นทายาทร้านอาหาร S&P ที่ดังและอยู่คู่คนไทยมาหลายสิบปีนั่นเอง
สาวหน้าหวานคนนี้เรียนจบด้าน Ceramics Design จากสถาบัน Central Saint Martins College of Art and Design จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่เมื่อจบแล้วเธอเลือกจะสานต่องานของที่บ้านโดยเข้ามาดูแลธุรกิจร้าน S&P โดยดูแลด้านการตลาด
ด้วยความเป็นสาวรุ่นใหม่ นาม ปรมา ได้มีกลยุทธ์ใหม่ๆ ในการพัฒนาแบรนด์ของครอบครัวที่มีมานานให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น และพยายามจะต่อยอดให้ธุรกิจขยายตัวกว่าเดิม
นอกจากนี้เธอยังมีฝีมือด้านแฟชั่น โดยได้ทำแบรนด์หมวกร่วมกับเพื่อนๆ ในชื่อ Triadic Affair ด้วย นับว่าเป็นสาวสวยเลือดนักธุรกิจที่น่าติดตามไม่น้อยเลย
พลอย – ชวพร เลาหพงศ์ชนะ
ใครที่ตาม IG ของชมพู่ อารยา อยู่ล่ะก็ คงคุ้นหน้า ‘พลอย-ชวพร เลาหพงศ์ชนะ’ เป็นอย่างดี เพราะเธอคนนี้ปรากฏตัวในไอจีของนางเอกสาวตัวแม่ถี่มาก นั่นเป็นเพราะว่าพวกเธอคือเพื่อนซี้กันนั่นเอง
พลอย ชวพร เป็นลูกสาวของคุณปรีชา เลาหพงศ์ชนะ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เธอเรียนจบปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะไปเรียนต่อทางด้านแฟชั่นที่อังกฤษ จึงไม่น่าแปลกใจที่เธอจะมีสไตล์การแต่งตัวที่โดดเด่นมาก
โดยในตอนนี้ พลอย ชวพร เป็นเจ้าของแบรนด์แฟชั่นที่ชื่อว่า P’s Material แถมเธอยังมีฝีมือด้านการถ่ายภาพ โดยเปิด IG ชื่อ snapbyploychava ไว้ลงภาพที่เธอถ่ายโดยเฉพาะด้วย
พะเพื่อน – ชุติมณฑน์ สกุลไทย
สาวสวยทายาทของไฮโซดัง แม่อุ๊-มณฑ์ลัชชา สกุลไทย เป็นอีกคนที่น่าจับตามองไม่น้อย เพราะเธอเคยชิมลางงานละครชื่อดังอย่าง สุดแค้นแสนรัก มาแล้ว
พะเพื่อน – ชุติมณฑน์ สกุลไทย จบปริญญาตรีจากคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน (ภาคภาษาอังกฤษ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทด้าน Master of Arts in Television จาก University of Arts London ทำให้เธอมีแพชชั่นในการทำงานด้านสื่อและบันเทิงต่างๆ
ปัจจุบันนี้เธอทำคลิปและ blog ต่างๆ ในด้านความสวยความงามและแฟชั่น ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่เธอชื่นชอบ โดยมักจะมีคุณแม่มาร่วมแจมด้วยเสมอๆ
นอกจากนี้ พะเพื่อน ยังทำธุรกิจขายรองเท้าออนไลน์กับเพื่อนๆ ด้วย แถมเธอยังบอกว่าถ้ามีโอกาสก็อยากจะรับงานบันเทิงอีก เอาเป็นว่าคอยติดตามกันนะคะ
บูบี – วารีนิธิ กันท์ไพบูลย์
เป็นหญิงสาวหน้าหวานที่เท่มาก สำหรับ ‘บูบี-วารีนิธิ กันท์ไพบูลย์’ นักธุรกิจหญิงที่มีไลฟ์สไตล์สุดแหวกแนว เธอคนนี้มีดีกรีเกียรตินิยมอันดับ 1 ทางด้าน Business Management Accounting and Marketing จาก University of Exeter ประเทศอังกฤษ
คุณบูบี เป็นหญิงสาวไฟแรงอีกคนที่น่าชื่นชม เพราะเธอมีความสามารถรอบด้าน แม้จะจบด้านการเงินและการจัดการมา แต่เธอก็สามารถเปิดธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้า VARITHORN BOUTIQUE ร่วมกับพี่สาว และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ไลฟ์สไตล์อีกอย่างของคุณบูบีที่น่าสนใจคือเธอชอบความเร็วชอบความแรงของซูเปอร์คาร์และสปอร์ตคาร์ และไม่ใช่แค่ชอบนั่งชอบขับเท่านั้น แต่เธอหลงใหลถึงขั้นที่ศึกษาอย่างจริงจัง และมีรถซูเปอร์คาร์ในครอบครองเป็นสิบๆ คัน
และด้วยความที่เธอชอบรถเอามากๆ นี่เอง ทำให้บูบีเริ่มหันมาจับธุรกิจซื้อขายรถ และก็ไปได้ดีอีกเช่นกัน ซึ่งเคล็ดลับของเธอไม่มีอะไรมาก เพียงแค่เธอบอกว่าเธอรักและมี Passion ในสิ่งที่ทำเท่านั้นเอง
โอบอุ้ม – รัสรินทร์ ชุมสาย ณ อยุธยา
แม้จะกลายเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งไปแล้ว แต่ไฮโซสาวคนสวยอย่าง ‘โอบอุ้ม-รัสรินทร์ ชุมสาย ณ อยุธยา’ ก็ยังจัดว่าเป็นหญิงสาวรุ่นใหม่ไฟแรงอยู่นะ เพราะอายุของเธอเพิ่งแตะเลข 3 เท่านั้น แต่เธอเคยผ่านธุรกิจต่างๆ มามาก แถมจับอะไรก็ได้เงินเป็นกอบเป็นกำเลยล่ะ
คุณโอบอุ้มจบจากคณะนิเทศศาสตร์ สาขาประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 ก่อนจะต่อโทในคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเดิม และเรียนปริญญาเอกด้านรัฐประศาสนศาสตร์ แม้จะดูแตกต่างกันมาก แต่นั่นก็เป็นเพราะเธอชอบที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ และค้นหาตัวเองไปเรื่อยๆ
คุณแม่ยังสาวคนนี้เคยทั้งขายผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เป็นพีอาร์ทำออแกไนเซอร์ ก่อนจะผันตัวเองมาเป็น ล็อบบี้ยิสต์ หรือนักเจรจาต่อรองธุรกิจ ซึ่งมีหน้าที่ในการประสานงานให้นักลงทุน และล่าสุดเธอทำธุรกิจด้านการปลูกพืชพลังงาน โดยเป็น Chief Executive เองด้วย
ณ ตอนนี้ คุณโอบอุ้ม รับบทภรรยาและคุณแม่เพิ่มขึ้นมาอีกอย่าง แต่เราเชื่อว่าสาวเก่งและแกร่งอย่างเธอทำได้ดีเช่นเคยแน่นอน
เม – เอรียา จุฑานุกาล
มาทางฝั่งของนักกีฬากันบ้าง ‘โปรเม-อารียา จุฑานุกาล’ เป็นนักกีฬากอล์ฟสาวชาวไทยที่สร้างชื่อให้ประเทศอย่างมาก เพราะเธอเคยก้าวขึ้นไปเป็นนักกอล์ฟมือวางอันดับ 1 ของโลกมาแล้ว
เมื่อพูดถึงกอล์ฟ หลายๆ คนคงนึกว่าเป็นกีฬาของคนรวย ที่มีเวลาเหลือเฟือ ใช้อุปกรณ์แพงๆ แข่งสบายๆ แต่เรื่องราวของโปรเมไม่ใช่แบบนั้น เพราะครอบครัวของเธอไม่ได้ร่ำรวยมาก กว่าที่เธอจะคว้าตำแหน่งและเงินรางวัลได้นั้นต้องผ่านเส้นทางที่ขรุขระด้วยอุปสรรคนานา
แต่ด้วยความที่พ่อแม่ของโปรเมเชื่อมั่นในตัวเธอและพี่สาว (โม อารียา) ซึ่งเป็นนักกอล์ฟเช่นกัน ทำให้พวกท่านยอมตัดสินใจขายทรัพย์สินและกิจการเพื่อเป็นทุนรอนให้ลูกๆ
หลังจากผ่านการฝึกซ้อมและเคี่ยวกรำอย่างหนักจากคุณพ่อมานับสิบปี โปรเม ก็ได้ผลลัพธ์จากความพยายามเป็นตำแหน่งนักกอล์ฟอันดับ 1 ของโลก แม้จะต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตารวมถึงชีวิตช่วงวัยรุ่นไป แต่ก็นับว่าคุ้มค่าทีเดียว
และล่าสุด เรื่องราวของ โปรเมและครอบครัวได้รับการจารึกเป็นหนังในชื่อของ โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง ซึ่งได้รับคำวิจารณ์ว่าเป็นหนังที่ดีและสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างยอดเยี่ยม
