- นางงาม ก็เหมือนนักสู้ กว่าจะได้มาซึ่งตำแหน่งอันทรงเกียรติต้องผ่านสถานการณ์ยากลำบากมามาก
- นางงามทุกคนต้องพัฒนาตัวเองทั้งความงาม บุคลิกภาพ สติปัญญา ไหวพริบปฏิภาณ
- ความอดทน ตั้งใจ ใจสู้ คือสิ่งที่ทำให้นางงามไม่ต่างจากนักสู้ผู้แข็งแกร่ง
นางงาม ก็เหมือนนักสู้ ถ้าบอกแบบนี้คงนึกภาพไม่ออกว่าสาวสวยแต่งกายงดงามที่เดินอยู่บนเวทีประกวดจะเหมือนนักสู้ได้ยังไง แต่ขอบอกเลยว่า กว่าที่แต่ละคนจะคว้ามงมาลงที่เธอได้นาน ต้องผ่านประสบการณ์มากมายกว่าจะมีวันนี้ ThePassion จึงขอสดุดีความสู้ไม่ถอยขอพวกเธอด้วยบทความนี้กันค่ะ
H’Hen Niê
นางงาน นักสู้คนแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือมิสเวียดนาม H’Hen Niê ที่กว่ามงจะลงที่เธอ เธอต้องผ่านอะไรมากมายมาย อย่างที่เธอพูดไว้เลยว่า “เริ่มจากไม่มีอะไร ฉันมาอยู่ตรงนี้ได้ คุณก็ทำได้เหมือนกัน”
H’Hen Niê เธอมาจากชนเผ่า Rade ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีประชากรประมาณ 5% ของประเทศเวียดนาม วัยเด็กเธอต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมาย ทั้งความยากจน ขาดแคลนโอกาสทางศึกษา และในวัย 14 ปี เธอตัดสินใจย้ายมาอยู่โฮจิมินห์ เพราะไม่สามารถยอมรับประเพณีของเผ่าที่จะให้เด็กสาวแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อยได้
เพื่อจะส่งตัวเองเรียน เธอรับทำงานอย่างขยันขันแข็งทั้งเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เด็กเสิร์ฟ รับทำจ้างทำความสะอาดบ้าน สอนพิเศษและรับจ้างส่งของ
จนในปี 2014 ได้มีแมวมองเห็นแววและชวนเธอมาเป็นนางแบบ ไม่นานเธอกลายมาเป็นนางแบบแถวหน้าของเวียดนาม และในปี 2015 เธอก็ประกวด Vietnam’s Next Top Model และได้อันดับ 9 ไป จนมาถึงปี 2018 เธอก็ได้กลายมาเป็น ชนกลุ่มน้อยคนแรกที่ชนะการประกวด Miss Universe Vietnam
นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีสวยงาม จิตใจของเธอก็งดงามเช่นกัน เพราะเธอนำเงินบางส่วนที่ได้จากการประกวดมิสเวียดนามมาสร้างห้องสมุดพร้อมมอบทุนการศึกษาให้เูด็กๆ นอกจากนี้เธอยังรณรงค์ให้คนในประเทศตระหนักและรับรู้ถึงเรื่องของเชื้อ HIV ความเท่าเทียมทางเพศ และการศึกษา เธอหวังว่าเธอจะช่วยเหลือเด็กกำพร้าที่อยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ของประเทศอีกด้วย
สวยสมมงมิสเวียดนาม และสมศักดิ์ศรี 1 ใน 5 มิสยูนิเวิร์ส 2018 จริงๆ
ฟ้าใส ปวีณสุดา
ฟ้าใส ปวีณสุดา ความหวังมงจักรวาลคนที่ 3 ของประเทศไทย จบการศึกษาเกียรตินิยมอันดับ 1 จากประเทศแคนาดา ที่ University Of Calgary สาขาวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหว ก่อนมงจะมาลง เธอใช้ความพยายามอย่างหนัก มาหลายหน แต่ทุกครั้งเธอก็เป็นเพียงแค่นางรอง เริ่มตั้งแต่รองอันดับ 2 มิสไทยแลนด์ไชนีสคอสมอส 2013 เข้ารอบ Top8 มิสเซาท์อีสเอเชียไชนีสคอสมอส 2013 ที่ประเทศมาเลเซีย ได้ตำแหน่งรองอันดับ 1 นางสาวไทย 2013
พักไปหลายปี กลับมาประกวดอีกครั้ง เธอก็ได้ตำแหน่งรองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017และเข้ารอบ Top 8 มิสเอิร์ธ 2017
ด้วยความใจสู้ มุ่งมั่นตั้งใจจะทำทุกวินาทีในการประกวดให้มีความสุขที่สุด เธอพัฒนาทั้งรูปร่าง การแต่งหน้า ทักษะภาษาไทย ไหวพริบในการตอบคำถาม ในที่สุดฟ้าใส ก็ก้าวขึ้นมาเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 คนล่าสุด แถมเธอยังเป็นหนึ่งในตัวเต็งมิสยูนิเวิร์สคนต่อไปซะด้วย
มารี เอสเธอร์ บังกูรา
คนนี้นี่ที่สุดแล้ว สู้ฟันฝ่าหาใครเทียบ มารี เอสเธอร์ บังกูรา นางงามจากสาธารณรัฐเซียร์ราลีโอน ประเทศในทวีปแอฟริกาตะวันตก ผู้มารายงานตัวเข้าร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่ประเทศไทยล่าช้ากว่านางงามคนอื่นๆ เพราะความยากลำบากในการเดินทาง เนื่องจากเซียร์ราลีโอน เพิ่งผ่านพ้นจากสงครามกลางเมืองมาในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี ส่งผลให้การคมนาคมในประเทศไม่สะดวกสบาย
สาเหตุที่ทำให้เธอเดินทางมาล่าช้านั้น เป็นเพราะว่าประเทศของเธออยู่ในภาวะสงคราม แถมยังไม่มีสถานทูตไทย ทำให้การเดินทางยากลำบากมากเพราะต้องเดินทางจากประเทศเซียร์ราลีโอน ไปยังประเทศกานา เพื่อไปขอวีซ่าที่สถานทูตไทยในประเทศไนจีเรีย จากนั้นจึงขึ้นเครื่องบินมาลงที่ประเทศเอธิโอเปีย แล้วค่อยเดินทางมายังประเทศไทย ซึ่งต้องเดินทางถึง 4 จุดพัก ด้วยกระเป๋าเดินทาง 1 ใบ
ทางกองประกวด และบรรดาแฟน ๆ นางงามเห็นใจและประทับใจในความมุ่งมั่นของเธอจึงให้การดูแลอย่างดี โดยเฉพาะบรรดาแฟน ๆ นางงามที่นำชุดไทยมาให้เธอสวมใส่ พาเธอไปเยี่ยมชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว และยังพาเธอไปยังสถานที่สำคัญในไทยอีกมาก สร้างความประทับใจให้เธอสุดๆ ซึ่งเธอสัญญาว่าในปีต่อไปเธอจะกลับมาประกวดนางงามจักวาลอีกแน่นอน
Angela Ponce
สวยขนาดนี้ ดูแทบไม่ออกเลยว่าเธอเป็นนางงามข้ามเพศ “Angela Ponce” (อังเฆลา ปอนเซ) ตัวแทนมิสยูนิเวิร์สจากประเทศสเปน ที่รู้ว่าตั้งแต่เด็กว่าตัวเองเป็นคนข้ามเพศ ที่สำคัญคือพ่อแม่ของเธอรวมถึงผู้คนในชุมชนก็ยอมรับและให้การสนับสนุน เช่น เวลามีเทศกาลในเมืองเธอมักได้รับเลือกให้ทำการแสดงและเดินแบบชุดพื้นเมืองอยู่เสมอ
อังเฆลาผ่าตัดแปลงเพศมาแล้วเมื่อปี 2014 เหตุผลที่เธอเข้าประกวดนางงามนั้นก็เพราะอยากให้คนได้รู้ว่าการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและเคารพซึ่งกันและกันนั้นเป็นไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเคารพในเสรีภาพแห่งการเลือกเพศสภาพ
ก่อนจะมาประกวด Miss Universe Spain เธอเคยชนะการประกวด Miss World Cadiz ในปี 2015 และได้เป็นตัวแทนเข้าร่วมการประกวด Miss World Spain ด้วย แม้ในการประกวดจะมีกฎห้ามสตรีข้ามเพศได้รับชัยชนะและมันทำให้เธอหัวใจสลาย แต่เธอก็เดินหน้าประกวดต่อไป และเมื่อเธอผ่านเข้ารอบสุดท้าย Miss World ก็เปลี่ยนกฎว่าให้สตรีข้ามเพศชนะได้ และเธอนี่แหละสาเหตุของการเปลี่ยนกฎนี้
แม้ว่าเธอจะไม่ได้รับตำแหน่งใดๆ ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ แต่เธอคือสัญลักษณ์แห่งความเท่าเทียม การต่อสู้เพื่อความฝันอย่างแท้จริง เริดที่สุด
พลอย พีรชาดา
ปิดท้ายด้วยสาวสวยรองอันดับ 1 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ ปี 2019 น้องพลอย พีรชาดา อีกหนึ่งตัวเต็งของการประกวดในครั้งนี้ กว่าจะมาถึงจุดที่ได้เป็นรองมิสแกรนด์ พลอยผ่านการประกวดมาหลายเวที แม้จะพลาดมาหลายหน แต่สาวพลอยไม่เคยท้อ อดทนพัฒนาตัวเองจนมีวันนี้
ก่อนจะมาประกวดนางงาม สาวพลอยเค้ามาสายนางแบบมาก่อนนะ โดยเริ่มจากการประกวดนางแบบในเวที ไทยซุปเปอร์โมเดล 2015 และได้รางวัล Editor’s Choice ซะด้วย จากนั้นพลอยก็เบนเข็ม มาประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2016 ซึ่งเธอเข้าได้ถึงรอบ 10 คนสุดท้ายเชียวนะ แต่ในที่สุดมงก็ไปลงที่สาว น้ำตาล ชลิตา
สาวพลอยยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจในสายนางงาม เธอกลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2018 และมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2018 เช่นกัน ซึ่งทั้งสองเวทีเธอไม่ได้รางวัลอะไรกลับไปครองเลยยย เป็นคนอื่นคงเลิกไปแล้ว แต่เธอไม่จ้า ความสู้ตายของเธอก็คือ ปี 2019 นี้ เธอกลับมาประกวด มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2019 และในที่สุด มงฯ รองอันดับหนึ่งก็มาลงที่เธอ