สาวๆคะ เมื่อวันใดวันหนึ่งที่ความรักเปลี่ยนแปลงไปเป็นความเบื่อหน่าย หรือจืดจางลง ย่อมนำปัญหามาให้กับคนทั้งสองคนแล้วจริงมั้ยคะ เช่นเดียวกัน เมื่อความรักมาถึงจุดที่เราสองคนไม่เข้าใจกัน ทำให้ต้องมีการปรับความเข้าใจกันบ้าง และถ้าเกิดความขัดแย้งกันขึ้นถึงขั้นลงไม้ลงมือกันแล้วเนี่ย มันก็เริ่มเป็นสัญญาณบอกว่าคนนี้ไม่ใช่สำหรับเราอีกต่อไปแล้ว การที่ถูก แฟนทำร้าย จริงๆแล้วไม่ได้จำกัดเพียงแค่การกระทำที่แสดงออกทางร่างกายอย่างเดียว หากแต่รวมถึงการทำร้ายทั้งทางคำพูด ทางอารมณ์ ถูกทำให้อับอายซ้ำซาก ถูกตำหนิ หรือถูกทำให้ขายหน้า หากสาวๆคนไหนกำลังเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้อยู่ละก็ วันนี้เรามีวิธีที่จะรับมือกับแฟนประเภทนี้มาบอกสาวๆกันค่ะ

หากความสัมพันธ์มันเดินทางมาถึงจุดที่เราถูก แฟนทำร้าย  ซึ่งโดยมากฝ่ายที่เริ่มทำร้ายอีกฝ่ายก็เห็นจะเป็นฝ่ายชาย เนื่องจากโดยปกติในความสัมพันธ์ ฝ่ายชายมักจะเป็นฝ่ายที่มีอำนาจมากกว่าฝ่ายหญิงเสมอ ด้วยทั้งรูปร่าง สรีระ รวมไปถึงภาวะการเป็นผู้นำ ทำให้หลายครั้งเมื่อมีการทำร้ายหรือล่วงเกินกันเกิด ปัญหาย่อมมาจากฝ่ายชายเป็นคนเริ่มต้นทั้งสิ้น แต่ที่กล่าวมานี้ก็ใช่ว่าผู้ชายทุกคนจะเป็นแบบนี้นะคะ หากแต่โดยส่วนมากผู้ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำมักจะเป็นผู้หญิงอย่างเราเท่านั้นเอง สาวๆคนไหนที่กำลังเจอสถานการณ์ที่ แฟนทำร้าย หรือข่มเหงรังแก ต้องบอกเลยว่าควรรีบวางแผนรับมือให้ดี มิเช่นนั้นอาจเกิดอันตรายกับตัวเราได้ เริ่มจาก

แฟนทำร้าย
shine.cn

 

1. ขอรับการช่วยเหลือ

ในปัจจุบัน มีหลายๆหน่วยงานเข้ามารองรับและออกมาปกป้องสิทธิสตรีมากมาย ด้วยว่าบนโลกของเรา สถิติการโดนทำร้ายของผู้หญิงนั้นมีมากขึ้นเรื่อยๆ หากสาวๆไม่แน่ใจที่จะเล่าเรื่องน่าอับอายนี้ให้ใครฟัง ขอแนะนำให้ลองโทรไปปรึกษาหน่วยงานเหล่านี้เพื่อขอคำแนะนำและขอรับการช่วยเหลือดู อย่างน้อยก็จะได้มีคนรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราและหากมีอะไรที่ดูอันตรายเกิดขึ้น เราเองจะได้ไม่ต้องเป็นฝ่ายรับหรือจัดการอยู่เพียงผู้เดียว มีพยานรู้เห็นก็ดีกว่าไม่มีจริงมั้ยคะ สำหรับเว็บไซต์และเบอร์โทรศัพท์ที่สาวๆสามารถเข้าไปขอความช่วยเหลือได้ก็คือ  http://www.violence.in.th/ หรือสายด่วนศูนย์ประชาบดี โทร 1300 นั่นเอง อย่าประมาทไปเชียว เรื่องแบบนี้ไม่ว่าเป็นใครโดนก็ต้องระวังกันไว้ทั้งนั้น

thoughtcatalog.com

2. วางแผนยุติความสัมพันธ์โดยทันที

สาวๆคะ หากเจอแบบนี้ไม่ว่าเป็นใครก็ไม่มีใครอยากทนหรอกค่ะ แม้เราจะรักเขามากขนาดไหนก็ตาม อย่างที่เราบอกไปความรักต้องแสดงออกมาเป็นพฤติกรรม ต้องเรียนรู้ที่จะปรับและรับข้อดีข้อเสียของกันและกัน ไม่ใช่เอาตัวเองเป็นใหญ่และข่มอีกฝ่ายอยู่ฝ่ายเดียว ดังนั้นหากเราเจอสถานการณ์แบบนี้สิ่งที่สาวๆต้องคิดต่อก็คือ เราจะวางแผนยุติความสัมพันธ์กับคนกลุ่มนี้ได้อย่างไร จากนั้นให้เริ่มวางแผนยุติความสัมพันธ์ให้เร็วและปลอดภัยที่สุด โดยส่วนมากผู้ชายที่มีพฤติกรรมแบบนี้ย่อมมีอารมณ์รุนแรงและการแสดงออกที่ก้าวร้าวอยู่แล้ว ดังนั้นหากจะวางแผนหรือทำอะไรเราเองก็ควรคิดให้รอบคอบเช่นเดียวกัน เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายกับตัวเราในภายหลัง โดยสิ่งที่คุณควรจะทำก็คือ

  • หยุดนึกถึงสิ่งที่เคยทำหรือเคยรักกันมาเพราะหากมีการทำร้ายกันเกิดขึ้นย่อมแสดงให้เห็นว่าความรักที่เขามีให้คุณมันน้อยลงไปแล้ว
  • นึกถึงสิ่งที่คุณต้องเอาติดตัวไปด้วย โดยอาจจะเตรียมกระเป๋าฉุกเฉินทิ้งไว้ หากเกิดเหตุอะไรรุนแรงขึ้นคุณก็สามารถหยิบกระเป๋าใบนั้นแล้วเผ่นออกมาได้ทันที
  • มีเบอร์ติดต่อฉุกเฉินหรือคนที่รับทราบเรื่องนี้เอาไว้ นอกจากนี้ยังควรตัดสินใจว่าคุณจะต้องทำอะไรต่อไปเพื่อรักษาความปลอดภัยหลังจากยุติความสัมพันธ์แล้ว คุณต้องการคำสั่งศาลห้ามคู่กรณีเข้าใกล้คุณหรือไม่ ต้องการย้ายไปอยู่เมืองอื่นหรือเปลี่ยนตัวตนหรือไม่
  • วางแผนความปลอดภัยให้กับคนอื่นๆด้วย กรณีที่เรามีพันธะผูกพัน เช่น หลายๆคู่มีลูกแล้ว คุณจำเป็นจะต้องวางแผนเผื่อลูกของคุณหลังจากที่ยุติความสัมพันธ์ อาจจะเป็นการคิดว่าจะให้ลูกอยู่กับใครต่อ แน่นอนว่าคงไม่ใช่แฟนคุณที่เขาทำร้ายคุณแน่ๆ หรือหากเราต้องเป็นฝ่ายเลี้ยงดู เราจะทำอย่างไรต่อไป อันนี้ต้องคิดและวางแผนให้ดีนะคะ
top5.com

3. ยุติความสัมพันธ์อย่างปลอดภัย

ในการยุติความสัมพันธ์นั้นคุณเองจะต้องจริงจังและเด็ดขาดที่จะยุติความสัมพันธ์จริงๆ โดยไม่มีการคิดว่าจะกลับไปหรือกลับมาคืนดีกันอีกในภายภาคหน้า หากคุณรู้สึกกลัวหรืออึดอัดที่จะอยู่คนเดียว แนะนำให้หาคนมาอยู่เป็นเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือเพื่อนสนิทของเรา นอกจากนี้หากคุณเกรงว่าการยุติความสัมพันธ์ต่อหน้าจะนำมาซึ่งความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ก็ควรมีคนกลางมาช่วยไกล่เกลี่ยในความสัมพันธ์นี้ หรืออาจจะเลือกเป็นการบอกเลิกทางโทรศัพท์ก็ได้ อย่างน้อยถ้ามีคนกลางหรือบอกเลิกกันแบบไม่เจอหน้าก็ลดโอกาสที่จะเกิดความรุนแรงเกิดขึ้นกับตัวคุณสาวๆได้นั่นเอง

แฟนทำร้าย
louisianadisabilitylaw.com

นอกจากขั้นตอนการยุติความสัมพันธ์ที่เราสามารถทำด้วยตัวเองได้แล้ว ขั้นตอนต่อมาก็ควรเป็นการรักษาความปลอดภัยของตัวคุณและคนรอบข้างของคุณเอง เพราะการที่เราจบกับเขามาแบบนี้ บางทีก็อาจสร้างความไม่พอใจให้กับเขา และนั่นหมายถึงเขาอาจจะตามมาทำร้ายคุณหรือคนรอบข้างคุณภายหลังก็เป็นได้ ดังนั้นนอกจากการจบความสัมพันธ์อย่างปลอดภัยแล้ว เราจะพาสาวๆมาดูวิธีการรักษาความปลอดภัยหลังจากยุติความสัมพันธ์กันค่ะ

# ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ทันทีที่ปลอดภัยจากการโดยทำร้ายแล้วสิ่งต่อมาที่คุณควรศึกษาไว้คือการปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง คุณสามารถพูดคุยกับหน่วยงานและจัดการให้เป็นไปตามกฏหมายเป็นขั้นตอนต่อไป อย่างน้อยผู้หญิงอย่างเราควรที่จะเรียนรู้เรื่องราวการดำเนินคดีเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายไว้บ้างเพื่อเป็นการป้องกันตนเอง ไม่ให้เกิดการคุกคามและเป็นการสร้างความแน่ใจว่าคุณยุติความสัมพันธ์อย่างปลอดภัยแล้วจริงๆ คุณควรจะติดต่อกับที่ปรึกษาความรุนแรงในครอบครัวและเรียนรู้ที่จะหาทางเลือกในการก้าวเดินต่อไปให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ทั้งนี้เองก็ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของคุณด้วย แต่อย่างน้อยการมีที่ปรึกษาด้านความรุนแรงก็ทำให้เราสบายใจได้ไปอีกเปราะหนึ่งค่ะ

huffingtonpost.com

# บันทึกการทำร้ายที่คุณต้องเจอมา

การบันทึกการทำร้ายนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะใส่ความฝ่ายตรงข้ามแต่อย่างใด แต่ในทางกลับกัน การบันทึกแบบนี้ถือเป็นหลักฐานชั้นเลิศที่จะเอาผิดคู่กรณีที่มาทำร้ายคุณได้ อย่างที่เราได้บอกไป การทำร้ายนั้นไม่ได้มีเพียงแค่การทำร้ายร่างกายเพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นคำพูดหรือการข่มขู่ด้วย ดังนั้นสาวๆควรที่จะเก็บหลักฐานทุกชิ้นที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นอีเมลล์ ข้อความ แชทหรือรูปถ่ายที่สามารถเป็นหลักฐานบ่งบอกได้ว่าเขาทำร้ายเราจริงๆ การทำแบบนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นในการฟ้องร้องทางกฎหมายกับคนที่ทำร้ายคุณ อีกทั้งยังช่วยในกรณีที่คุณต้องการคำสั่งศาลที่ห้ามคู่กรณีเข้าใกล้คุณอีกด้วย

shespeaksworldywca.org

# ยื่นขอคำสั่งศาลห้ามคู่กรณีเข้าใกล้

ขั้นตอนต่อมาคือการที่คุณต้องเข้าไปยื่นขอคำสั่งศาลเพื่อกันไม่ให้คู่กรณีของเราเข้ามาใกล้ ในที่นี่เราจะรู้จักกันในชื่อคำสั่งการให้ความคุ้มครองบุคคล (ต่อการทำร้ายร่างกาย) การยื่นขอคำสั่งนี้จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองทางกฏหมายจากการทำร้าย ขั้นตอนคือ

  • ให้ยื่นหลักฐานที่คุณได้บันทึกมา ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปถ่าย หรือหลักฐานอื่นๆที่แสดงถึงการทำร้ายระหว่างที่คุณสองคนมีความสัมพันธ์กันต่อศาล จากนั้นพวกเขาจะช่วยแนะนำการกรอกข้อมูลเพื่อขอคำสั่งห้ามคู่กรณีเข้าใกล้เรานั่นเอง
  • ถ้าศาลอนุมัติคำสั่งห้ามคู่กรณีเข้าใกล้ คำสั่งนี้จะต้องส่งไปยังคู่กรณีของคุณด้วย ซึ่งหลังจากที่ส่งคำสั่งไปแล้ว คุณจะต้องยื่นหลักฐานการคุ้มครองต่อศาล ให้ปรึกษาวิธียื่นหลักฐานกับเสมียนประจำศาล
  • หลังจากที่ได้สำเนาจากศาลแล้ว ให้คุณเก็บสำเนาคำสั่งศาลห้ามคู่กรณีเข้าใกล้ไว้ติดตัวตลอดเวลา เพื่อที่เราจะสามารถแสดงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นได้เสมอเมื่อถึงเวลาจำเป็น เพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่าคุณจะไปอยู่ตรงไหนและไม่รู้ว่าคู่กรณีของคุณตัดสินใจที่จะละเมิดคำสั่งเมื่อใดด้วย

หากแต่การยื่นขอคำสั่งศาลนี้อาจไม่ได้ทำให้คุณปลอดภัย 100% เพราะคำสั่งศาลนี้สามารถช่วยให้คู่กรณีออกห่างจากคุณได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามก็ถือเป็นการป้องกันตัวเองอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราสบายใจขึ้นว่าถึงอย่างไรตอนนี้ก็มีกฏหมายที่ช่วยคุ้มครองเราให้ปลอดภัยอยู่นั่นเอง

istockphoto.com

การทำร้ายไม่ว่าจะเป็นการกระทำที่แสดงออกมาทางร่างกายหรือจิตใจก็ย่อมไม่เป็นผลดีทั้งสิ้น ดังนั้นให้ตระหนักไว้เสมอว่า คนที่รักกันย่อมต้องไม่ทำร้ายกัน และโดยเฉพาะเราที่เป็นผู้หญิง ปัจจุบันมีการคุ้มครองสิทธิสตรีมากมาย เราเองไม่ควรที่จะเป็นฝ่ายยอมตลอดเพียงเพราะคำว่ารักคำเดียว ความรักไม่ได้หมายถึงการที่เราต้องยอมให้กับคนที่เรารักทุกๆอย่าง แต่มันคือการที่คนสองคนต้องรับผิดชอบความรู้สึกของกันและกันไว้ หากเราคิดได้เช่นนี้ เชื่อว่าเราเองจะได้เจอกับความรักที่ดีอย่างแน่นอน The Passion เป็นกำลังใจให้สาวสู้ต่อไปนะคะ