ทำไมอะ ทำไม ไม่ตอบไลน์ ? สาวๆคนไหนเคยมีประสบการณ์แบบนี้บ้างคะ คือ การรอข้อความจากเขาหรืออาจจะเป็นการรอให้เขาคนนั้นโทรกลับมาหรือแม้กระทั่งรอว่าเขาจะขอคุณไปเดทอีกเมื่อไหร่ สาวๆบางคนอาจมีการคาดหวังด้วยซ้ำว่าเขายังคงรักและคิดถึงเราตลอดเวลา แต่ในความเป็นจริงแล้วมือถือที่เรารอคอยให้ดังนั้น กลับว่างเปล่า ไม่มีข้อความ ไม่มี missed call ไม่มีใครให้ในสิ่งที่เราหวังว่ามันจะเกิดขึ้น และแน่นอนว่านั่นมันคือความรู้สึกแย่จากการรอคอย จริงอยู่ ที่มันจะรู้สึกดีหากว่าเขาคนนั้นที่เรากำลังรอส่งข้อความกลับมา ซึ่งนั่นจะทำให้เรา happy อย่างมาก แต่หลังจากนั้นมันก็จะวนกลับมาลูปเดิมคือการรอคอยและคิดวนไปมาว่าเขากำลังคิดถึงเราอยู่หรือไม่
The Passion เข้าใจความรู้สึกของสาวๆดีค่ะ ดังนั้นวันนี้เราจึงพาทุกคนมาดูกันว่า กรณีที่หนุ่มตัวดีของเรา ไม่ตอบไลน์ หรือปล่อยให้เรารอสายของเขานานๆ เราควรรอต่อไปหรือควรเทใจให้คนอื่นแทน!
การที่เรารอคอยใครนานๆนั้น นอกจากจะทำให้เรามีความกังวลใจและหลายครั้งเกิดเป็นความเครียดจนบางทีก็ทำให้สุขภาพจิตเสียกันไปเลยทีเดียว หากแต่ผลเสียมันกลับไม่ได้มีแค่นั้น เพราะบางครั้งแม้เราจะหนีออกไปทำกิจกรรมอื่น เช่น การออกไปเจอเพื่อน หรือออกไปสังสรรค์ แน่นอนว่าเมื่อใจมันยังผูกกับโทรศัพท์ ยังไงๆมันก็วางไม่ลง แม้ตัวเรากำลังสนุกกับเพื่อนก็จริงแต่มันก็จะมี moment แบบว่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูตลอด สิ่งที่ได้ต่อมาในสถานการณ์แบบนี้ คือ นอกจากตัวเราที่จะรู้สึกไม่สนุกด้วยแล้ว ยังพลอยทำให้คนรอบข้างหมดสนุกเพราะความกังวลของเราอีกด้วย
จริงๆการแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ เพียงแต่สาวๆต้องหากิจกรรมอะไรที่ทำแล้วรู้สึกว่าเราจมอยู่กับมันได้ หากเป็นภาษาทางจิตวิทยา เขาจะเรียกสิ่งๆนี้ว่าการ flow ซึ่งการ flow นี้ ก็คือ การที่เราสามารถจมอยู่กับกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งที่เรารู้สึกชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมที่เราทำแล้วรู้สึกมีความสุข โดยที่ไม่ต้องฝืน และกิจกรรมนั้นจะต้องเป็นกิจกรรมที่มีคุณค่า สามารถสร้างประโยชน์ได้ด้วย การทำกิจกรรมที่ว่านี้นอกจากจะช่วยให้เราลืมการจดจ้องกับโทรศัพท์หรือสิ่งที่เรากังวลอยู่ได้แล้ว ยังทำให้เรารู้สึกมีค่าและเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองได้อีกด้วย มาถึงตรงนี้สาวๆหลายคนอาจกำลังสงสัยว่ากิจกรรมที่กล่าวกันนี้มันมีอะไรบ้าง งั้นเรามาดูกันเลยค่ะ
1. อ่านหนังสือ
การอ่านหนังสือเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่ายและทำได้ทุกเพศทุกวัย เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เราจดจ่ออยู่กับเหตุการณ์ในหนังสือที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า อันจะเป็นตัวช่วยให้เราสามารถโฟกัสและจมไปกับเนื้อเรื่องที่เราสนใจอยู่นั่นเอง กิจกรรมนี้นอกจากจะสร้างประโยชน์ คือช่วยให้เราละสายตาจากโทรศัพท์มือถือของเราได้แล้ว ยังเป็นการสร้างเสริมความรู้ให้กับตัวเราเองจนเรากลายเป็นอีกคนหนึ่งที่มีความมั่นใจมากขึ้นด้วย
2. การเล่นดนตรี
อย่างที่สาวๆทราบกันดีว่า การเล่นดนตรีนั้นถือเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์อันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ เพราะถือเป็นการฝึกสมาธิอย่างดีเลิศ ช่วยเสริมสร้างในเรื่องความจำและสมอง โดยเฉพาะคนที่เล่นดนตรีคลาสสิคอย่างเปียโนหรือไวโอลิน จะช่วยในเรื่องของสมาธิและการจดจำได้มากกว่าการเล่นดนตรีแนวอื่นๆ อย่างเช่นแนวร็อก สังเกตได้จากงานวิจัยหลายๆสำนักที่กล่าวถึงพัฒนาการของทารกในครรภ์ หากคุณแม่เป็นคนชอบฟังดนตรีคลาสสิคตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์จะช่วยให้ทารกมีพัฒนาการดี สมบูรณ์ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ อีกทั้งยังเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองให้ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้ฟังดนตรีอีกด้วย ทั้งนี้ การเลือกเล่นดนตรีนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ไม่จำเป็นต้องเป็นดนตรีคลาสสิค หากแต่เป็นเครื่องดนตรีที่เราเล่นแล้วรู้สึกสนุกและ flow ไปกับมัน ก็จะช่วยให้สาวๆหลุดโฟกัสจากพ่อหนุ่มตัวดีที่ทำให้เรารอได้แล้วล่ะค่ะ
3. การปลูกต้นไม้
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการปลูกต้นไม้นั้น นอกจากจะช่วยลดโลกร้อนได้แล้วยังช่วยให้ร่างกายของเราผ่อนคลายได้อีกด้วย สาเหตุก็มาจากสีสันของต้นไม้ โดยเฉพาะสีม่วงอย่างเช่น แอฟริกันไวโอเลต ลาเวนเดอร์ แววมยุรา เป็นต้น จะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่น ช่วยให้บรรยากาศบริเวณบ้านนั้นสงบ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการหลั่งสารอะดรีนาลีนหรือสารแห่งความสุขที่จะทำให้ร่างกายผ่อนคลาย สมองปลอดโปร่ง เพิ่มพลังงานในร่างกาย และทำให้ออกซิเจนไหลเวียนได้ดีขึ้นอีกด้วย สำหรับใครทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์แนะนำให้ลองหาต้นไม้สีเขียวมาปลูกดู เชื่อเถอะว่า หากคุณคิดงานไม่ออก แล้วลองมองออกไปยังต้นไม้ที่เราปลูกไว้ สีเขียวของต้นไม้จะเป็นพลังบวก ส่งผลให้คุณมีไอเดียใหม่ๆเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
4. การถ่ายรูป
สำหรับสาวๆที่รักการถ่ายรูป เชื่อว่าต้องถูกใจกับกิจกรรมนี้อย่างแน่นอน หากเราเป็นคนหนึ่งที่ต้องมารู้สึกวิตกกังวลกับการรอคอยหนุ่มๆที่ไม่มีวี่แววแม้แต่จะตอบไลน์ ลองหยิบกล้องตัวโปรดและออกไปถ่ายรูปกันสิคะ การถ่ายรูปนั้น สิ่งสำคัญคือเราต้องมีสมาธิและคิดตลอดเวลาว่าหากต้องการให้รูปออกมาแนวนี้ จะต้องใช้แสงแบบไหน โฟกัสเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังทำให้เราได้ออกไปพบกับสถานที่ที่เราอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน ถือเป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆไปในตัวอีกด้วย
กิจกรรมต่างๆที่กล่าวมานี้ จริงๆก็เป็นเพียงกิจกรรมตัวอย่างที่ทำให้สาวๆได้ออกจากโซนแห่งการรอคอย ซึ่งเป็นตัวทำให้สาวๆจมอยู่กับความว้าวุ่นใจไปจนถึงความเครียด ก่อให้เกิดความซึมเศร้าและมองคุณค่าในตัวเองน้อยลงไปได้ ดังนั้นเมื่ออ่านบทความนี้จบแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงได้คำตอบกันแล้วว่า หากหนุ่มๆที่เรารอ เขาไม่ได้มีปฏิกิริยาในการตอบสนองใดๆกลับมาหาเราเลย ไม่ว่าจะไลน์ โทร หรือเอ่ยปากชวนเราออกเดท เราควรจะทำอย่างไรต่อไป
