- บิวตี้บล็อกเกอร์บอกให้ ดูแลผิว แบบนี้ ดาราบอกใช้ครีมแบบนั้้น จะเชื่อได้ไหม
- ไวเทนนิ่งไม่ได้แก้ฝ้ากระ แต่ป้องกันได้เท่านั้น
- ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรไม่ได้ช่วยให้ผิวสวย แถมยังบวมน้ำไม่รู้ตัว
สาวๆต่างรู้ดีว่าถ้าอยากได้ผิวใส หน้าสวยไร้ริ้วรอยต้องเริ่มจากการ ดูแลผิว แต่ข้อมูลความงามที่บอกต่อกันมา ถ้าไม่ดูให้ดีแทนที่จะได้ผิวสมใจอาจได้หน้าเยินกลับมาแบบไม่ทันตั้งตัว
The Passion บอกต่อให้รู้ทันกับ 10 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการดูแลผิวที่หลายคนไม่รู้ และยังทำอยู่ จะได้ไม่ผิดหวัง
หน้าไม่สะอาดถ้ายังล้างแล้วจนดังเอี๊ยด
เคยรู้สึกไหมว่าหลังล้างหน้าแต่ยังรู้สึกลื่นๆ ถูแล้วไม่ดังเอี๊ยด เหมือนไม่สะอาด จนอยากล้างซ้ำ หรือหลายคนหยิบโทนเนอร์มาเช็ดอีกหลายรอบ ดูแลผิว แบบนี้ดีจริงเปล่า
ความลื่นบนหน้าคือสารเคลือบผิวตามธรรมชาติ ที่ช่วยเก็กกับความชุ่มชื้นเอาไว้ ถ้าใช้โฟมล้างหน้าจนรู้สึกแห้ง แสดงว่าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชิ้นนั้นล้างความชุ่มชื้นออกไปจนหมด ทำให้ผิวแห้งเกินไป ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น หน้าจึงกลับมาเยิ้มกว่าเดิมเสียอีก
สิ่งสกปรกบนหน้าเป็นต้นเหตุของสิว
สิวขึ้นแบบนี้เพราะล้างหน้าไม่สะอาดแน่ๆเลย จริงอยู่ที่สิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้า ทั้งจากเครื่องสำอาง เหงื่อไคล ฝุ่นควันมีส่วนทำให้เกิดสิว แต่สาวๆรู้ไหมว่า สาเหตุหลักของการเกิดสิวมาจาก ผิวหนังผลิตน้ำมันมากเกินไปมาเจอกับเซลล์ผิวเก่าเกาะตัวหนาไม่ยอมหลุด ผิวจึงอักเสบกลายเป็นสิว
ส่วนสิ่งสกปรกที่สาวๆกังวลเข้าไปเพิ่มการอุดตันในรูขุมขนแต่ไม่ทำให้สิวอักเสบเป็นเม็ดโต หรือกลายเป็นสิวในชั่วข้ามคืน
ใช้ไวท์เทนนิ่งเข้มข้นทาเพื่อลดกระฝ้า
พออายุมากขึ้น จะเริ่มมีฝ้ากระเป็นจุดๆให้เห็น กวนใจสาวๆอย่างเราไม่น้อยเลย บิวตี้บล็อกเกอร์หลายคนแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ไวเทนนิ่งเพื่อแก้ไข เพราะคุณสมบัติที่ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสน่าจะลดรอยฝ้ากระลงได้เช่นกัน
ความจริงแล้ว การใช้ไวเทนนิ่งจะได้ผลกับฝ้ากระในช่วงแรกๆเท่านั้น เพราะมันมีประสิทธิภาพในการป้องกันผิว มากกว่าลดเลือนกระฝ้า ถ้ามีรอยเยอะแนะนำให้รักษาด้วยวิธีเลเซอร์จะดีกว่า อีกอย่าง ไวเทนนิ่งควรใช้ทาทั่วใบหน้ามากกว่าเฉพาะจุด
ถึงทาครีมกันแดด SPF สูงๆแล้ว ก็ต้องทาทับรองพื้นที่มียูวีถึงเอาอยู่
เพราะบ้านเราแดดแรงขึ้นทุกวัน แถมยังเป็นศัตรูตัวร้ายของผิวสวย สาวๆหลายคนทาครีมกันแดดแล้วก็ยังตบด้วยแป้งรองพื้นที่มีสารป้องกันยูวีเพิ่มอีก เพราะกลัวว่าแค่ครีมกันแดดเนื้อบางจะเอาไม่อยู่
ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF และ PA สูงๆ มีสารเคลือบปิดรูขุมขนช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดีอยู่แล้ว ขณะเดียวกันก็ทำให้ใบหน้าต้องรับภาระหนักอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้แป้งรองพื้นป้องกันยูวีเพิ่มอีก แค่ตบด้วยแป้งพัฟฟ์เนื้อเบาบางก็พอแล้ว
ผิวหน้าปรับให้ขาวใสขึ้นได้ใน 7 วัน
“สวยได้ใน 7 วัน” เป็นคำพูดคุ้นหูที่สาวๆได้ยินบ่อยๆจากโฆษณาผลิตภัณฑ์ความงามทั้งหลาย ความจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นครีมบำรุงผิวดีแค่ไหน ราคาสูงเท่าไรก็สามารถทำให้ผิวขาวขึ้นมาได้แค่ใน 7 วันแน่นอน เพราะรอบของการผลัดเซลล์ผิวเก่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 28 วัน หรือเร็วที่สุดอย่างน้อยก็ 14 วัน
หลังจากเปลี่ยนครีมกระปุกใหม่ สาวๆจะเริ่มสังเกตความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนต้องอดใจรอประมาณ 2-3 เดือน ส่วนครีมที่อ้างว่าเห็นผลทันที ขอให้สงสัยไว้เลยมีส่วนผสมของสารที่ไม่ปลอดภัยแน่นอน
ทาครีมคอลลาเจนช่วยลดริ้วรอยได้
ถ้าอยากหน้าเด็ก ไร้ริ้วรอยต้องอัดคอลลาเจนลงไปในชั้นผิวถึงจะได้ผล เป็นคำโฆษณาที่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายแบรนด์ใช้จูงใจสาวๆ แต่ความจริงคือ คอลลาเจนไม่สามารถซึมผ่านผิวหนังโดยตรงได้ เพราะเป็นสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่กว่าชั้นผิว แต่สามารถใช้ส่วนผสมบางอย่างลงในคอลลาเจนเพื่อกระตุ้นให้ผิวภายในสร้างคอลลาเจนมากขึ้นเอง
ฉะนั้นถ้าต้องการซื้อครีมลดริ้วรอยให้เลือกครีมที่มีคุณสมบัติ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ จะให้ผลดีกว่า ครีมผสมคอลลาเจนเป็นไหนๆ
ผิวแห้งมากแก้ได้ด้วยโทนเนอร์
สาวผิวแห้งที่แต่งหน้ายาก เพราะผิวเป็นขุย เกิดจากผิวขาดความชุ่มชื้นหรือกักเก็บน้ำในผิวได้น้อยลง หลายคนเลือกใช้โทนเนอร์ หรือน้ำตบมาช่วยเสริมเพราะคิดว่าของเหลวใสๆจะเข้าไปเติมความน้ำใต้ผิวได้
แต่สารชุ่มชื้นที่หายไปจริงเรียกว่า เซราไมด์ เมื่อมีปริมาณลดลงก็กักเก็บน้ำไม่อยู่ ทำให้ผิวแห้ง ฉะนั้นไม่ว่าจะใช้โทนเนอร์ราคาแพงขนาดไหนก็ไม่ช่วยให้เซราไมด์เพิ่มขึ้นได้ วิธีแก้ที่ถูกต้องคือ การเลือกใช้เซรั่มที่มีผสมเซราไมด์แทนโทนเนอร์จะได้ผลดีกว่า
ใช้โทนเนอร์เช็ดเครื่องสำอางแบบน้ำมัน รูขุมขนจะไม่อุดตัน
เรามักได้ยินว่า “น้ำมัน” ใช้ล้างสิ่งสกปรกออกได้ดี แต่อาจไม่ใช่กับผิวหน้า แม้น้ำมันจะช่วยให้เช็ดเครื่องสำอางออกได้ง่าย แต่ขนาดรูขุมขนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
หากล้างความมันออกไม่หมด น้ำมันจะเข้าไปอุดตัน ทำให้หย่อนคล้อย จนสุดท้ายก็ทำให้รูขุมขนใหญ่ขึ้น สร้างปัญหาผิวไม่เรียบเนียน และเป็นสิวง่ายด้วย
ดื่มน้ำ 2 ลิตรช่วยผลัดผิวได้ดี
หลายคนคิดว่ายิ่งดื่มน้ำมาก ร่างกายจะขับของเสียออกได้ดี รวมถึงการผลัดเซลล์ผิวเก่าด้วย แต่จริงๆมันเป็นคนละเรื่องกัน เพราะไตซึ่งเป็นอวัยวะทำหน้าที่กรองของเสีย มีขีดจำกัด หากดื่มน้ำมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการบวมน้ำได้ แถมของเสียก็ไม่ได้ถูกขับออกไปเลย ฉะนั้นดื่มในปริมาณให้เหมาะสมจะดีกว่า
ยิ่งนอนทั้งวัน ยิ่งผิวสวย
สำหรับสาวๆในเมืองใหญ่ที่ทำงานหนัก ตื่นเช้ากลับค่ำจนนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจกังวลว่านอนน้อยทำให้ผิวหมองคล้ำไม่สดใส พอถึงวันเสาร์-อาทิตย์จึงนอนทั้งวันเพื่อชดเชยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้การนอนให้เพียงพอจะช่วยฟื้นฟูผิวได้ดีกว่าครีมบำรุงจริง แต่การนอนชดเชยเพียงไม่กี่วัน ไม่อาจฟื้นฟูกระบวนการผลัดเซลล์ผิวให้กลับมาเป็นปกติได้
ทางที่ดีที่สุด คือพยายามเข้านอนเป็นเวลา และนอนหลับพักผ่อนในทุกวันๆให้ได้อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ควบคู่กับการกินอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ผิวของสาวๆ ก็จะเผยความกระจ่างใสได้แน่นอน
ก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์มา ดูแลผิว ตัวเอง สาวๆ ควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาให้ดีก่อนว่าเป็นความจริงมากน้อยเพียงใด The Passion เชื่อว่า วิธีดูแลผิวที่ดีที่สุด คือการดูแลจากภายในทั้งเลือกกินอาหารมีประโยชน์ พักผ่เอนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้สาวๆ ทุกคนก็พร้อมอวดผิวสวยในแบบของตัวเองได้แล้ว
