กลายเป็น cosmetic norm ไปแล้วกับการสร้างสรรค์ skincare หรือเครื่องสำอาง ควบคู่ไปกับ campaign ต่างๆเพื่อให้ผลิตภัณฑ์นั้นน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งแคมเปญที่ว่านี้ก็มีทั้งที่มีประโยชน์ต่อตัวผู้บริโภคเองและเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมด้วย หลากหลายแบรนด์ชั้นนำต่างให้ความสนใจต่อความนิยมนี้จึงแข่งกันออกแคมเปญที่น่าสนใจต่างๆ ให้เราได้มีส่วนร่วม มาดูกันว่ามีแคมเปญไหนน่าสนใจกันบ้าง

Sephora

เริ่มด้วยแคมเปญดีๆของทาง Sephora ที่มีการเรียกร้องจากเหล่าลูกค้าเป็นอย่างมาก นั่นก็คือแคมเปญ “Clean at Sephora” ซึ่งโปรเจคนี้ทาง Sephora ได้เคยทดลองทำเมื่อนานมาแล้วและปรากฎว่าเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆคนจึงมีการเรียกร้องให้กลับมาอีก และครั้งนี้แคมเปญนี้ก็กำลังจะกลับมาอย่างถาวร นั่นคือการที่ Sephora จะสแกนสารอันตราย 3 ชนิด ได้แก่ parabens, sulfates และ phthalates ที่มักจะพบอยู่ในเครื่องสำอาง

ดังนั้นหากผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่ไม่มีสารอันตรายเหล่านี้ ก็จะถูกมาร์คด้วยสติ๊กเกอร์สีเขียวเพื่อเป็นการรับรองว่าผลิตภัณฑ์นั้นไม่มีสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งได้รับการตรวจสอบโดย Sephora เป็นที่เรียบร้อย ในขณะนี้มีมากกว่า 50 แบรนด์เข้าร่วมโครงการนี้แล้ว เราต้องมาคอยดูกันต่อไปว่าจะมีแบรนด์ไหนบ้างที่ผ่านการรับรอง หลังจากนี้การช้อปปิ้งเครื่องสำอางของสาวๆจะสะดวกสบาย ไร้กังวลถึงความอันตรายของสารในผลิตภัณฑ์อีกเลย 

โลกสวย
allure.com

 

แคมเปญ

 

LUSH

แบรนด์ดังจากประเทศอังกฤษ ที่โด่งดังมากเรื่องความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์เพราะผสมกันสดๆ บรรจุลงภาชนะกันให้เห็นสดๆเลย ทั้งนี้ก็เพื่อผิวของแต่ละคนโดยเฉพาะ ดังนั้นมันจึงตอบโจทย์ต่อสุขภาพผิวของเราสุดๆ นอกจากนี้ lush ยังมีแคมเปญดีๆออกมาเรื่อยๆ อย่างล่าสุดก็คือแคมเปญ SOS Sumatra shampoo bar ซึ่งเป็นแคมเปญช่วยทวงคืนที่อยู่ให้กับลิงอุรังอุตัง ดังนั้นทาง lush จึงเกิดปิ๊งไอเดียการทำแชมพูโดยไม่ใช้น้ำมันปาล์มเพื่อเป็นการรักษาที่อยู่อาศัยให้กับลิงรังอุตัง และเกิดแคมเปญนี้ขึ้นมา โดยมีกิมมิคเล็กๆน่ารักของ shampoo bar นี้คือ เมื่อมันโดนน้ำตัวอักษร SOS จะจางหายไป เหมือนกับว่าการช่วยเหลือครั้งนี้ทำให้การร้องขอความช่วยเหลือของลิงได้หายไปด้วย แค่นั้นยังไม่พอไอเดียดีๆอีกอย่างหนึ่งของแคมเปญนี้ก็คือแชมพูนั้นจะไม่ได้มาในรูปแบบของเหลวในขวด แต่จะมาในรูปแบบก้อน ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดพลาสติกได้อีกทางนึง คอนเซ็ปต์จะดีอะไรขนาดนี้ ถ้าใครได้ลองเข้าไปแล้วอาจจะหาทางออกจากช็อปไม่ได้เลยก็ได้

แคมเปญ

 

The Body Shop

ถ้าพูดถึงหัวข้อแคมเปญรักษ์โลก รักสิ่งแวดล้อมแล้วนั้น จะไม่พูดถึงแบรนด์นี้ไม่ได้เลย นั่นก็คือ The Body Shop เพราะเป็นแบรนด์แรกๆที่รณรงค์เกี่ยวกับการไม่ทดลองผลิตภัณฑ์ในสัตว์ (cruelty free) และยังคงรณรงค์อยู่จนถึงทุกวันนี้ภายใต้ชื่อว่า forever against animal testing โดยผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นในเดอะ บอดี้ ช้อป นัั้นไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่ทดลองในสัตว์เพราะได้ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์แทน ยิ่งไปกว่านั้นค่ะทุกคน เกือบจะทุกผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้นั้นแทบจะเป็น vegan cosmetic 100% ก็คือการที่ส่วนผสมต่างๆในผลิตภัณฑ์นั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกับสัตว์เลยนั่นเอง ทาบอก ปลื้มใจเหลือเกินค่ะ ตอนนี้ทาง The Body Shop ยังต้องการรายชื่อของผู้ที่เห็นด้วยในการต่อต้านการทดลองในสัตว์เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 8 ล้านรายชื่อ ถ้าหากใครสนใจสามารถไปร่วมลงชื่อได้ที่ https://www.foreveragainstanimaltesting.com

 

แคมเปญ

 

 

Origins 

ตามมาติดๆกับแบรนด์ที่มีการใช้พรรณพืชเป็นส่วนผสมหลัก นั่นคือ Origins ออริจินส์ค้นคว้าวิจัยพืชพรรณธรรมชาติที่ดีที่สุดทั่วโลก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มอบประสิทธิภาพดูแลปัญหาผิวได้ตามความต้องการ ทั้งนี้ยังมุ่งมั่นเสริมสร้างความสมดุลของสุขภาพจากภายในและภายนอกควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม ออริจินส์เป็นแบรนด์นึงที่บุกเบิกและเริ่มใช้มาตรการต่างๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ต่างๆของออริจินส์นั้นผลิตขึ้นจากส่วนผสมของธรรมชาติ ใช้พลังงานแบบยั่งยืนที่ผลิตจากกังหันลม และกระบวนการผลิตทุกๆขั้นตอนล้วนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการใช้บรรจุภัณฑ์ทุกชนิดที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล อีกทั้งยังทำงานร่วมกับองค์กรระดับโลกอย่าง Global ReLeaf  ในการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว เรียกได้ว่าเป็นการปลูกต้นไม้ทดแทน ซึ่งตอนนี้ปลูกไปแล้วกว่า 500,000 ต้นทั่วโลก การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากออริจินส์ก็ถือว่าได้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญปลูกต้นไม้รักษ์โลกนี้ได้

แคมเปญ

 

แคมเปญ

 

Kiehl’s

แบรนด์ดังที่เริ่มต้นมาจากร้านขายยาเล็กๆใน มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนจะก้าวเข้าสู่กิจการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลปรนนิบัติผิว ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์เก่าแก่ที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1851 โดยนโยบายหลักที่น่าสนใจของคีลส์คือ “ลองก่อนซื้อ” ซึ่งนโยบายนี้คงจะถูกใจสาวๆเลยใช่มั้ยละคะเพราะบางครั้งเราก็อยากจะแน่ใจในผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะซื้อมาใช้จริง ซึ่งผลิตภัณฑ์ของคีลส์นั้นจะเน้นไปที่การใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น โทนเนอร์ชื่อดังอย่าง Calendula Herbal Extract Alcohol-Free Toner ที่ไม่เพียงแค่สกัดส่วนผสมจากดอกคาเลนดูล่า แต่ยังใส่กลีบเข้ามาในขวดกันเลยทีเดียวเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพขั้นสูงสุด จนทำให้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้กลายเป็น signature ของคีลส์ที่ใครหลายคนต้องถามหา ไม่เพียงแต่จะเป็นผลิตภัณฑ์ออแกนิค ทำจากธรรมชาติ คีลส์ยังมีโครงการรักษ์โลกภายใต้ชื่อว่า “Recycle and Be Rewarded” คือการที่ให้ลูกค้าสะสมผลิตภัณฑ์เปล่าของคีลส์เพื่อนำมาแลกของขวัญ ใครอยากร่วมด้วยช่วยกันรักษ์โลก ก็อย่าลืมนำผลิตภัณฑ์เก่าๆไปแลกรับของขวัญกันได้เลย

แคมเปญ

 

แคมเปญ

 

แคมเปญ

Innisfree

และแบรนด์สุดท้ายที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี นั่นก็คือ Innisfree นั่นเอง อินนิสฟรี เป็นแบรนด์ที่แบ่งปันสิ่งดีๆจากธรรมชาติของเกาะเชจู และดำเนินตามวิถีชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาความสมดุลของธรรมชาติ เพราะฉะนั้นส่วนผสมทุกชนิดของแบรนด์นี้จะเน้นไปที่ธรรมชาติเป็นหลักมากกว่าสารเคมี นอกจากนี้อินนิสฟรียังมีแคมเปญที่ช่วยรักษ์โลก นั่นก็คือ แคมเปญการรีไซเคิลขวด ถ้าหากใครมีขวดผลิตภัณฑ์เปล่าสามารถเอาไปแลกรับแต้มได้เลยที่อินนิสฟรีทุกสาขา

แคมเปญ

แคมเปญ

แคมเปญ

นี่เป็นแค่ตัวอย่างจากบางแบรนด์เท่านั้น ยังมีแคมเปญที่น่าสนใจอีกมากมายที่ทั้งเป็นประโยชน์ต่อตัวเราเอง และเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้การที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากธรรมชาตินั้น เราสามารถไว้ใจได้ในระดับนึงว่าจะปลอดภัยต่อผิวเรามากกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์จากสารเคมี ซึ่งแคมเปญส่วนใหญ่ก็มีการรณรงค์การใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติอย่างเต็มที่ ทั้ง 6 แบรนด์นี้สามารถหาซื้อใช้ได้ง่ายมากแล้วในประเทศไทย

ถ้าใครอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมทั้งเรื่องของสินค้าและแคมเปญ ก็สามารถ walk in เข้าไปสอบถามกับพนักงานของแต่ละร้านได้ทุกสาขาเลยค่ะ