เคยสงสัยมั้ยคะว่า ทำไมใช้ครีมบำรุงแพงแล้วผิวหน้าไม่เห็นจะสวยขึ้นเลย? ทำทรีทเมนท์แพงๆ แล้วกลับมาหน้าแย่เหมือนเดิม? ทั้งหมดนี้เป็นเพราะสาวๆ มี พฤติกรรมทำร้ายผิว โดยไม่รู้ตัวอยู่น่ะสิ! แม้จะเป็นพฤติกรรมเล็กน้อย แต่ก็ส่งผลในระยะยาวได้เลยนะ สาเหตุของผิวคล้ำแถมมีริ้วรอยเนี่ย!! มาดูกันค่ะว่าเรากำลังทำพฤติกรรมเหล่านี้อยู่รึเปล่า รีบเลิก รีบสวยกันนะจ๊ะสาวๆ
1. แสดงสีหน้า(ทางลบ)มากเกินไป
การขยับกล้ามเนื้อใบหน้ามีส่วนช่วยให้ใบหน้าเรากระชับขึ้นได้ค่ะ แต่การแสดงสีหน้ามากจนเกินไป โดยเฉพาะสีหน้าเศร้า เครียด หรืออารมณ์ด้านลบต่างๆ จะนำริ้วรอยมาสู่ใบหน้าได้ ที่เป็นแบบนี้เพราะว่า เมื่อเราแสดงสีหน้าเศร้าจะทำให้มัดกล้ามเนื้อบนใบหน้าเคลื่อนไหวตรงกันข้ามกับการเคลื่อนไหวปกติ เช่น ปากคว่ำลง ขมวดคิ้ว การขยับมัดกล้ามเนื้อจะใช้แรงมากกว่าปกติ ทำให้เกิดความตึงบนผิวหน้า และนำมาสู่ริ้วรอยได้ในที่สุด
วิธีแก้: พยายามกำจัดและควบคุมอารมณ์ทางลบให้ได้ ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย หรือง่ายที่สุด ยิ้มค่ะ!! การยิ้มทำให้มัดกล้ามเนื้อบนหน้าเคลื่อนไหวในทิศที่ควรจะเป็น ช่วยให้ริ้วรอยมาช้ากว่าทำหน้าบึ้งได้มากมาย
2. ไม่ทาครีมกันแดด
อันนี้ทุกคนรู้กันแหละค่ะว่าแดดทำร้ายผิว แต่รู้มั้ยแดดทำร้ายผิวได้มากขนาดไหน รู้คำตอบแล้วคุณจะอึ้ง!! 90% ของริ้วรอยบนใบหน้าและจุดด่างดำของเรา มาจากแดดค่ะ อีก 10% นั้นมาจากการกรรมพันธุ์และอื่นๆ ดังนั้นครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในการรักษาความอ่อนเยาว์ของผิว แล้วที่สำคัญแดดเมืองไทยธรรมดาซะที่ไหนหล่ะคะ เดินออกไปแปปเดียวก็เกรียมแล้ว ยิ่งไม่ทาครีมกันแดดเนี่ย รับรองค่ะริ้วรอยมาก่อน 35 แน่นอน!! ดังนั้นทาครีมกันแดดเถอะค่ะ เพื่อรักษาผิวหน้าเราให้สวยไปนานๆ
วิธีแก้: พยายามให้ครีมกันแดดเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการแต่งหน้าในทุกเช้า แม้รองพื้นข้างขวดจะเขียนว่ามีสารกันแดดก็จริง แต่ครีมกันแดดจริงๆ นั้นจะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ยาวนานกว่าค่ะ พยายามเลือกครีมกันแดดที่เข้ากับสภาพผิวและการแต่งหน้ามากที่สุด จะได้หมดข้ออ้างในการไม่ทาครีมกันแดด ส่วนใครที่ยังเลือกครีมกันแดดไม่เป็น ตาม ลิงค์ นี้ไปเลยจ้า
3. กินแต่ของหวาน
น้ำตาลคือศัตรูร้ายทำลายผิวโดยตรงเลยนะคะ เนื่องจากความหวานของน้ำตาลจะไปเร่งการเสื่อมถอยของผิว ที่เรียกว่า “Glycation” ซึ่งกระบวนการนี้จะไปทำลายเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินบนใบหน้า เส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินนั้นเป็นเส้นใยที่ช่วยพยุงใบหน้าเราให้ดูเต่งตึง ถ้าเส้นใยเหล่านี้ลดน้อยลง หน้าเราก็จะเหี่ยว มีริ้วรอยนั่นเองค่ะ
วิธีแก้: ถ้าติดหวานจริงๆ แนะนำให้ทานผักผลไม้ที่มีความหวานจากธรรมชาติอย่างพอดีๆ นอกจากนี้ยังมีวิตามินช่วยบำรุงผิวหน้าอีกด้วย คุณประโยชน์สองเด้งเลยนะคะ
4. สูบบุหรี่
อันนี้นอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพปอดแล้ว สุขภาพผิวเราก็เสียด้วยค่ะ แค่ท่าทางที่ใช้ดูดบุหรี่ก็ทำให้เกิดริ้วรอยบนริมฝีปากได้แล้ว เวลาควันบุหรี่ลอยขึ้นมาเข้าตา ตาของเราก็จะหรี่ ทำให้เกิดตีนกาได้อีก!! 555 สำหรับใครที่ไม่สูบก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีโอกาสนะคะ ควันบุหรี่คือตัวทำร้ายผิวจริงๆ เนื่องจากสารพิษต่างๆในบุหรี่จะส่งผลต่อน้ำหล่อเลี้ยงในผิว ทำให้ผิวแห้งเหี่ยวเกิดริ้วรอยได้ง่าย นอกจากนี้ควันบุหรี่ยังลดการฟื้นฟูผิวที่เสียหายอีกด้วยนะคะ
วิธีแก้: สำหรับคนที่สูบบุหรี่ ทำการลด-ละ-เลิกตั้งแต่วันนี้ค่ะ หนทางเดียวที่จะกู้ผิวสวยกลับคืนมาได้ ให้ปอดได้พักเคลียร์สิ่งสกปรกค่ะ แล้วมันจะส่งผลมาที่ใบหน้าและผิวพรรณเราเอง 🙂 ส่วนคนที่ไม่ได้สูบก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่ไปอยู่ใกล้ชิดควันบุหรี่ค่ะ อาจจะดูเว่อร์วังไปหน่อย แต่เราก็ลดโอกาสเอาไว้ก็ดีค่ะ
5. ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล
มีสูบบุหรี่ก็ต้องมีดื่มแอลกอฮอลอะเนอะ ซึ่งผลเสียก็อย่างที่รู้ๆ กันเลยว่า อย่างแรกที่เห็นชัดเลยคืออาการหน้าโทรมในเช้าวันถัดไปที่เรานอนไม่พอหรือแฮงค์ นอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์ยังทำให้ปัสสาวะบ่อยจึงส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำและผิวแห้ง ส่งผลต่อไปถึงทำให้ผิวมีริ้วรอย อึ๋ยยยย และนอกจากจะขาดน้ำแล้ว ที่ร้านกว่านั้นคือการขาดวิตามินบี ซึ่งจะทำให้ผิวเหี่ยว แก่ไว และเป็นสิวด้วย และใครที่ดื่มแอลกอฮอล(ที่มีแคลอรี่เยอะอยู่แล้ว) กับน้ำอัดลมหวานๆ ด้วยอีกเนี่ย หายนะหุ่นพังที่แท้ทรูเลย
วิธีแก้: ไม่มีวิธีไหนดีเท่ากับการลด-ละ-เลิกแล้วล่ะค่า หรือถ้าเลิกไม่ได้จริงๆ หรือต้องดื่มเพื่อเข้าสังคม ก็แนะนำให้ดื่มแต่พอดี เอาแบบจิบๆ และมีลิมิตให้ตัวเอง อย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆ ระหว่างดื่มด้วย เพราะจะช่วยลดอาการแฮงค์และอาการโทรมในวันถัดไปได้
6. ล้างหน้าไม่สะอาด
จานใส่อาหารไม่สะอาดเรายังรู้สึกสกปรกเลย แล้วถ้าเป็นหน้าเราล่ะคะ จะรู้สึกยังไง? แน่นอนค่ะ มันสกปรก มันต้องไม่ดีแน่ๆ การล้างหน้าไม่สะอาดเป็นบ่อเกิดของปัญหาผิวมากมาย ทั้งผิวหมองคล้ำ เป็นสิว และริ้วรอย เนื่องจากสารเคมีและมลภาวะต่างๆ นั้นสะสมลงบนหน้า ทำให้ผิวเราไม่ได้หายใจหายคอ เลยแสดงอาการป่วยออกมาไงคะ
วิธีแก้: ไม่ว่าวันนั้นจะใช้เพียงแค่ครีมกันแดดหรืออะไรก็ตาม ต้องใช้ Makeup remover เช็ดออกทุกวันค่ะ จะช่วยกำจัดสารเคมีตกค้างบนใบหน้าได้ค่ะ
7. นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
อันนี้ก็น่าจะคุ้นเคยกันมานะคะ ว่าการนอนหลับไม่เพียงพอส่งผลอย่างร้ายแรงต่อผิว เพราะตอนเรานอนหลับผิวจะทำการซ่อมฟื้นฟูตัวเอง ถ้าเรานอนน้อยผิวเราก็มีเวลาซ่อมฟื้นฟูตัวเองน้อยเช่นกัน การนอนน้อยทำให้ผิวมีริ้วรอย สีผิวไม่สม่ำเสมอ และทำให้เสียความเต่งตึงของผิวอย่างถาวร นอกจากนี้การนอนไม่เป็นเวลายังทำให้ผิวเกิดอาการ Jet Lag ได้ด้วย ทำให้เวลาฟื้นฟูของผิวไม่สม่ำเสมอ
วิธีแก้: พยายามนอนให้ครบวันละ 7 ถึง 8 ชั่วโมง ควรนอนเป็นเวลา และควรจัดท่านอนให้เหมาะสม ไม่นอนคว่ำหน้า ควรนอนตะแคง หรือท่าที่ดีที่สุด นอนหงาย ค่ะ
เพียงปฎิบัติตาม 7 ข้อนี้ ลดละเลิก พฤติกรรมทำร้ายผิว ผิวของเราก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอน นิสัยอาจจะไม่ได้เปลี่ยนได้ภายในวันเดียว เราต้องค่อยเป็นค่อยไปค่ะ เพื่อรักษาผิวของให้ดูอ่อนวัย ไร้ริ้วรอย จุดด่าดำ และอื่นๆ ลองเอาไปใช้กันดูนะคะ เป็นนิสัยดีๆ ต้อนรับปีใหม่ที่จะมาถึง จะได้สวยพร้อมรับปีต่อๆ ไปอีกไงคะ 🙂