สำหรับแฟนคลับแฮรี่ พอตเตอร์ ไม่มีใครไม่รู้จักสาวสวยแห่งบ้าน Gryffindor อย่าง Hermione Granger ที่รับบทโดยสาวสวยหน้าหวานอย่าง Emma Watson แน่นอน ด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์กับหน้าตาที่สะสวยของเธอทำให้คนที่เห็นครั้งแรกก็มักจะตกหลุมรักเธอได้ง่าย ๆ อย่างไม่ต้องพิจารณาสิ่งใดเพิ่มเติม
เชื่อว่าสาว ๆ หลายคน เมื่อพูดถึงดาราที่เป็นแบบอย่างคงต้องนึกถึงชื่อเธอมาเป็นคนแรก ๆ อย่างแน่นอน เพราะเธอเองไม่ได้เป็นเพียงผู้หญิงที่มีความสามารถด้านการแสดงเพียงอย่างเดียว หากแต่งานด้านอื่น ๆ เธอก็สามารถทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างที่เราทั้งหลายทราบกันดีกว่า Emma Watson ถือเป็นหนึ่งในนักแสดงเจ้าบทบาทแห่งวงการฮอลลีวูดที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เธอโด่งดังมาจากบท Hermione Granger ในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Harry Potter หนังสือที่มียอดขายถล่มทะลายของนักเขียนฝีมือระดับโลกอย่าง J.K.Rowling
# จากเด็กน้อยสู่การเป็นรักแสดงระดับโลก
เส้นทางการเป็นนักแสดงของเธอเริ่มต้นจากการที่เธอได้เข้าคัดเลือกเป็นนักแสดงในภาพยนตร์แฮรี่ พอตเตอร์ครั้งแรกเมื่อปี 1999 ด้วยความมั่นใจที่เต็มล้นของเธอ ทำให้เธอฉายแววการเป็นนักแสดงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หลังจากการคัดเลือกครั้งนั้น คนทั้งโลกก็ได้จดจำภาพของเธอในฐานะแม่มดน้อยแสนฉลาดที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนแฮรี่ พอตเตอร์อยู่เสมอ
# ทำงานหนักแต่ก็ไม่ทิ้งการศึกษา
อย่างที่หลาย ๆ คนทราบกันดีว่าเอ็มม่า นอกจากจะเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จแล้ว เธอยังเป็นคนหนึ่งที่มีผลการเรียนดีและจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังอีกด้วย แม้ว่าเธอจะทำงานหนักแค่ไหน แต่เอ็มม่าก็ไม่เคยที่จะทิ้งการเรียนเลย มีเพียงแค่ช่วงมัธยมเท่านั้นที่เธอพักการเรียนไว้เพื่อถ่ายทำแฮรี่ พอตเตอร์ ตอน เครื่องรางยมทูตให้เสร็จ หลังจากนั้นเธอก็มุ่งศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในสาขาวรรณกรรมอังกฤษ มหาวิทยาลับบราวน์ แม้จะต้องใช้เวลานานกว่าเพื่อนสักหน่อยเพราะต้องทำงานควบคู่ไปด้วย แต่เธอก็มุ่งมั่นศึกษาจนได้ใบปริญญานี้มาครอบครอง แสดงให้เห็นว่าการจะประสบความสำเร็จในชีวิตการเป็นนักแสดงนั้น ไม่จำเป็นต้องทิ้งการเรียน หากแต่ถ้ามีความมุ่งมั่นเราก็ประสบความสำเร็จได้ทั้งสองด้าน
# เส้นทางในสายแฟชั่น
เป็นที่รู้กันว่าสาวมากความสามารถอย่างเอ็มม่า แน่นอนว่าต้องไม่ได้มีแค่งานแสดงเพียงอย่างเดียวแน่ ๆ ถูกต้องค่ะ เอ็มม่าเริ่มต้นอาชีพสายนางแบบจากการเป็นถ่ายแบบให้นิตยสาร Teen Vogue เมื่อปี ค.ศ. 2005 ในตำแหน่งดาราที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ขึ้นปก นอกจากนี้เธอยังได้รับคัดเลือกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์ Burberry ในคอลเล็คชั่น Fall/Winter 2009 และ 2010 ยังไม่หมดเพียงเท่านี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2011 ที่ผ่านมา เอ็มมาได้รับรางวัล Style Icon จากนิตยสาร Elle ที่เจ้าแม่แฟชั่นสายโกธิคอย่างวิเวียน เวสต์วู้ด เป็นผู้มอบให้ด้วยตัวเอง ต่อมาเธอก็ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ Lancôme แบรนด์เครื่องสำอางชื่อดังระดับโลก
การได้รับรางวัลมากมายแม้จะเป็นตัวการันตีความสำเร็จของเธอก็จริง แต่เส้นทางความสำเร็จในสายแฟชั่นของเธอยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะนอกจากที่เอ็มม่าจะได้รับคัดเลือกเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์ดัง ๆ มากมายแล้ว ตัวเธอเองยังเป็นถึงที่ปรึกษาฝ่ายสร้างสรรค์ให้กับแบรนด์ People Tree ในคอลเล็คชั่น Spring 2010 และ Fall/Winter 2010 อีกด้วย
# เส้นทางของการทำดีเพื่อสังคม
นอกจากการประสบความสำเร็จของเธอในเส้นการเป็นนักแสดงและนางแบบแล้ว เอ็มม่าก็ไม่ได้นิ่งดูดายใช้ชีวิตเหมือนเจ้าหญิงตามที่หลาย ๆ คนเข้าใจนะคะ หากแต่เธอคือคนหนึ่งที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการทำดีเพื่อสังคมเลยทีเดียว อย่างที่ทราบกันดีว่าเอ็มม่านั้นเป็นคนที่รักเด็กมาก เมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา เอ็มม่าเริ่มการส่งเสริมการศึกษาของเด็กผู้หญิงที่ประเทศบังกลาเทศและแซมเบีย ด้วยการไปแวะเยี่ยมบ้านของเด็กเหล่านั้นในฐานะทูตสันถวไมตรีสตรีของสหประชาชาติ และในปีเดียวกันเธอก็มีจดหมายถึงสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติในนครนิวยอร์กเพื่อออกโครงการรณรงค์ฮีฟอร์ชี (HeForShe) ซึ่งเป็นโครงการที่เรียกร้องให้ผู้ชายเห็นถึงความสำคัญของความเท่าเทียมกันทางเพศ ในการยื่นจดหมายครั้งนี้เธอได้รับโอกาสในการกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับความเท่าเทียมกันและสิทธิสตรีอีกด้วย ตั้งแต่ครั้งนั้นเป็นต้นมาทำให้สังคมจดจำเธอในภาพของผู้สนับสนุนสิทธิสตรีนั่นเอง
# นิสัยส่วนตัวของเอ็มม่า
หากใครที่เป็นแฟนคลับของสาวคนนี้ ต้องรู้แน่นอนว่าเธอเป็นคนที่รักการอ่านเอาเสียมาก ๆ ไม่ต่างจากบทบาทในแฮรี่ พอตเตอร์ที่เธอได้รับเลย เมื่อเธอมีเวลาว่างเธอจะคอยเอาหนังสือดี ๆ ไปวางไว้ตามที่ต่าง ๆ เพื่อให้คนหยิบไปอ่าน เธอเชื่อว่าการอ่านหนังสือนั้นจะทำให้เราค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน และการส่งต่อสิ่งที่ดีแบบนี้ก็มีคุณค่ามากกว่าการไปทำอะไรให้พวกเขาเสียอีก
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาว ๆ กับประวัติและเส้นทางการประสบความสำเร็จของสาวเอ็มม่า อย่างที่เห็นนะคะ การจะเป็นสาวที่เฉิดฉายอยู่ในวงการฮอลลีวู้ดได้นั้น สาวเอ็มม่าไม่ได้ทำในบทบาทของการเป็นนักแสดงและนางแบบอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ แต่เห็นได้ชัดว่าเธอให้ความสำคัญกับทุก ๆ บทบาทที่เธอได้รับ ไม่ว่าจะเป็นบทบาทของการเป็นนักเรียน บทบาทการทำดีเพื่อสังคม หรือแม้กระทั่งเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็ก ๆ เราเองก็เป็นคน ๆ นั้นที่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคมได้