กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์เรียกได้ว่าขยับตัวทำอะไรแต่ละครั้งสะเทือนไปทุกวงการทั่วโลก ล่าสุดได้ปรับเปลี่ยนพลิกโฉม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ครั้งยิ่งใหญ่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ EXPLORE ENDLESSLY – การค้นพบไม่มีวันสิ้นสุด เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2561 ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญจนต้องบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการค้าปลีกและดิวตี้ฟรี
นอกจากคิง เพาเวอร์โฉมใหม่นี้จะกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานาครที่มาพร้อมประสบการณ์การท่องเที่ยวเหนือระดับสำหรับนักเดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั่วทุกมุมโลกแล้ว การเปิดตัวให้ยลโฉม GRAND OPENING THE NEW KING POWER RANGNAM EXPLORE ENDLESSLY JOURNEY ยังมาพร้อมเซอร์ไพรส์เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับอินเตอร์อย่าง “ฟ่าน ปิงปิง”
ฟ่าน ปิงปิง นักแสดงและนักร้องชาวจีน ที่โด่งดังจากการรับบท “จินสั่ว” สาวใช้ผู้ซื่อสัตย์ของ “จื่อเอวย” ในซีรีส์ไต้หวันชุด Princess Pearl หรือ องค์หญิงกำมะลอ นอกจากนี้ยังมีผลงานสร้างชื่อให้กับเธออีกมากมายทั้ง The Lion Roars ตามด้วย Lost in Beijing และผลงานอีกมากมายนับไม่ถ้วน การันตีความสามารถของซุปเปอร์สตาร์ระดับอินเตอร์ของเธอได้เป็นอย่างดี ส่วนเรื่องความสวยคงไม่ต้องบรรยายอะไรกันมาก ให้ภาพมันเล่าเรื่องดีกว่าค่ะ
ช่วงเดินเปิดตัวบนพรหมน้ำเงิน
คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ แบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่
ส่วนรีเทลทั้งหมด 6 โซน
- โซนเวิลด์ลักชัวรี่บูติก (World Luxury Boutiques) ชั้น 1 กับคอนเซ็ปต์ Glamorous Gold ได้รับแรงบันดาลใจจากทองคำแท้ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในทุกยุคทุกสมัย รวบรวมสินค้าแฟชั่นลักชัวรี่หลากหลายแบรนด์ดังทั่วโลกกว่า 17 ร้านค้าบนพื้นที่ 2,400 ตารางเมตร
- โซนแว่นตา (Multi Brand Sunglasses) ชั้น 1 ที่มีแว่นตากันแดดหลากหลายแบรนด์จากทั่วทุกมุมโลกมาให้เลือกสรรอย่างจุดใจกว่า 30 แบรนด์บนพื้นที่ 245 ตารางเมตร
- โซนนาฬิกาและเครื่องประดับ (Luxury Watches, Multi Brand and Jewelry) ชั้น 2 กับคอนเซ็ปต์ Luminous Orbit พื้นที่ราว 1,800 ตารางเมตร ที่ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบจากกาลเวลา และเส้นโค้งมนของหน้าปัดนาฬิกา
- โซนแฟชั่น กีฬา และแกดเจ็ต (Fashion, Sports and Gadgets) ชั้น 2 แหล่งช้อปนำสมัยบนพื้นที่ราว 600 ตารางเมตรของเทรนด์เซ็ทเตอร์ที่รวบรวมทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า แอคเซสเซอรี่ ชุดกีฬา และสินค้าไฮเทคแบบครบวงจร
- โซนเดอะบิวตี้คลับ (The Beauty Club) ชั้น 2 กับคอนเซ็ปต์ ‘Enchanting Orchids’ ที่นำเสน่ห์ของภูมิทัศน์ทางธรรมชาติ และเส้นสายอ่อนช้อยของกลีบดอกกล้วยไม้ มาเป็นแรงบันดาลในการสร้างพื้นที่กว่า 2,300 ตารางเมตรที่งดงาม และหอมอบอวลของเครื่องสำอาง น้ำหอม สปา และเครื่องหอมชื่อดังทั้งจากยุโรป อเมริกา และเอเชีย พร้อมบริการ ‘Beauty Specialist’ ที่ให้บริการแนะนำสินค้าโดยผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ
- โซนไทยไลฟ์สไตล์คอลเลกชัน (Thai Lifestyle Collection) ชั้น 3 กับคอนเซ็ปต์ ‘ The Thai Wonders’ บนพื้นที่ 660 ตารางเมตร ที่ถ่ายทอดความวิจิตรงดงามความเป็นไทยผ่านรูปทรง และสีสันของเครื่องถักทอไทยโบราณ สินค้าภูมิปัญญาไทยฝีมือประณีต ของที่ระลึก สินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นชื่อของไทย ที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต และวัฒนธรรมไทยได้อย่างสร้างสรรค์ที่คนทั่วโลกต่างชื่นชม
ส่วนอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมด 2 โซน
- โซน THAI TASTE HUB ชั้น 3 จำนวน 17 ร้าน พื้นที่กว่า 840 ตารางเมตร ที่แรกและที่เดียวในประเทศไทย!
กับการรวมตัวของบรรดาสตรีทฟู้ดชื่อดังของประเทศในสไตล์ที่ไม่เคยมีมาก่อน การออกแบบพื้นที่เสมือนหนึ่งกำลังเดินอยู่ในย่านสตรีทฟู้ดยามค่ำคืน ด้วยการวางผังร้านไปตามตรอกซอกซอย โดยเลือกใช้วัสดุ และลวดลายที่สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ทางวัฒนธรรมอาหารไทยร่วมสมัย อาทิ ผัดไทยประตูผี, ละมัยหอยทอด,
ห่านท่าดินแดง และเกาเหลารองเมือง เป็นต้น - โซน Restaurants and Cafes ชั้น 1 และชั้น 3 จำนวน 11 ร้าน ที่รวบรวมร้านอาหาร และคาเฟ่ระดับอินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่รังสรรค์เป็นพิเศษเพื่อคิง เพาเวอร์ รางน้ำเท่านั้น อาทิ นารา, El Gaucho, Koi The, Mini Pablo Cheese Tart เป็นต้น
ส่วนการจัดประชุม การแสดงนิทรรศการนานาชาติ ความบันเทิง และสันทนาการครบวงจร (Meeting, Event Venue and Entertainment) ชั้น 1 และชั้น 3
รองรับการประชุม สัมมนา หรือจัดเลี้ยงสูงสุดถึง 600 ท่าน ณ อักษรา เธียเตอร์ ตื่นตาตื่นใจไปกับระบำสายน้ำ (The Dancing Fountain at The Fountain Square) ประกอบแสงสีเสียงสุดอลังการ สำหรับทุกคนที่มาเยี่ยมเยือนได้ชมอย่างเพลิดเพลินไปกับการแสดงโชว์ และนิทรรศการชั้นนำจากทั่วโลก ผลัดเปลี่ยนตลอดทั้งปี