จากสงครามนางงามสู่สงครามการเมือง ของดาราสาวสุดแซ่บ “อาย วราไพรินทร์”

สมัยนี้คงจะมองกันแค่ภายนอกไม่ได้แล้วนะสาวๆ ใครจะไปคิดว่าอดีตนางร้ายเบอร์แรงอย่าง อาย-วราไพรินทร์ ธนวริสพร จะพลิกบทบาทครั้งสำคัญ แต่ไม่ใช่ในฐานะนักแสดงในจอทีวีเพราะคราวนี้เธอขอมาลงสนามในวงการการเมืองในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดซะด้วย

เชื่อว่าหลายๆ คนคงจำภาพสาวอายได้จากบทบาทของบีบี นางร้ายดาวรุ่งจากละครสงครามนางงาม ที่ตีบทแตกจนคนอินกันทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ถึงในจอจะดูแซ่บขนาดไหน นอกจอกลับตรงกันข้ามอย่างกับเป็นคนละคนกันเลย เพราะวันนี้เธอขอผันตัวจากการแสดงในจอมาสู่เส้นทางของนักการเมือง พร้อมเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นจะเข้าไปแก้ปัญหาให้กับประชาชน ขอบอกเลยว่าเธอไม่ได้มาเล่นๆ เพราะเธอจริงจังถึงขนาดลงพื้นที่ไปสู้แดดสู้ฝนด้วยตัวเองมาแล้ว วันนี้ The Passion เลยอยากจะให้ทุกคนสลัดภาพของบีบีในละคร แล้วมาทำความรู้จักกับสาวอายให้มากขึ้น

ขอคำจำกัดความให้ตัวเองหน่อย

จริงๆ อันนี้เป็นคำตอบที่ถ้าอายตอบเองมันจะยากมาก เพราะว่าเราเป็นคนที่ปรับตัวกับทุกสถานการณ์ คือสมมติว่าโยนบทมาเล่นเป็นคนนี้ คือเราก็ทำเลย แล้วเราก็เป็นเลย สมมติอยู่ในสถานการณ์ที่ทำงาน เราก็จะเข้าโหมดที่ทำงานเลย หรือว่าอยู่กับครอบครัวก็จะเป็นแบบแฟมิลี่เลย

บท “บีบี” ในละครสงครามนางงามที่หลายๆ คนจำได้ ตรงกับตัวจริงของเรารึเปล่า

ไม่เลยค่ะ จะมีก็แต่ความคล้ายในเรื่องของความอะเลิท คืออยู่นิ่งได้ไม่นาน แต่ว่าเรื่องบ้าผู้ชายเนี่ยไม่เท่า ไม่สู้ คอนเฟิร์มว่าไม่บ้าแน่นอน

ปัจจุบันทำอะไรอยู่บ้าง

เนื่องจากหลายๆคนจะติดลุคบีบี แล้วเวลาจะมีผู้กำกับหรือใครเชิญไปเล่นก็จะเป็นบทคาแรกเตอร์นั้นเลย ถือว่าตัวเองประสบความสำเร็จมากกับเรื่องนั้น ที่ทุกคนก็คือจำเป็นบีบีหมดเลย พอเรารู้สึกว่าอยากจะวางตัวเองเป็นนักธุรกิจ ก็อยากจะมีความที่แบบได้ทำอะไรที่มันใกล้เคียงตัวเองบ้าง เลยทำให้ช่วงนี้เลยห่างๆ ไปทำงานอยู่เบื้องหลังแทนค่ะ

อะไรทำให้ตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.

เข้าสู่การเมืองเพราะว่ารอบนี้ เขาเปิดรับให้คนรุ่นใหม่เพราะมันห่างหายจากการเลือกตั้งมาประมาณ 8 ปี ที่ประเทศไทยไม่ได้มีการเลือกตั้ง ก็เลยทำให้คนรุ่นใหม่อยากเข้าไปแล้วเขาก็เปิดกว้าง ไม่จำเป็นว่าตั้งเป็นทายาทนักการเมือง ต้องจบรัฐศาสตร์ เพียงแค่ว่าคุณมีความสามารถ หรือคุณอยากที่จะเอาสิ่งที่คุณถนัดนั้นไปพัฒนาประเทศในรูปแบบไหนที่คุณอยากจะเป็น สุดท้ายคุณมีเจตนาที่ดีที่อยากจะทำให้ประเทศดีขึ้นแค่ไหน ตรงนั้นเลยทำให้มีผู้ใหญ่ ได้เข้ามาทาบทาม เราเลยรู้สึกว่าถ้าเข้าไปแล้วไม่มีปัญหากับใคร เราโอเค พอมาทำก็คือลุยเต็มที่เลย

การที่เป็นผู้หญิงมีผลต่อการทำงานมั๊ย

เรามองว่าบทบาทการพัฒนาประเทศเป็นหน้าที่ของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นเพศอะไร เพียงแต่ว่าการเป็นผู้หญิงอาจทำให้เราถูกจับตามองมากขึ้น ยิ่งเป็นดารามาก่อนด้วย ก็จะถูกตั้งคำถามว่าจะดูแลประเทศยังไง จะพัฒนาประเทศได้ยังไง แต่สุดท้ายเราก็ลบคำสบประมาทเหล่านั้น พิสูจน์ตัวเองให้พวกเขาเห็น เพราะเราเป็นคนที่พอตั้งใจทำอะไรแล้ว เราจะทำจริงจัง หลายๆ คนที่ติดตามอายทางโซเชียลจะเห็นว่าอายเป็นคนที่กลัวแดดแต่พอเรามาจริงจังกับการลงพื้นที่ เราก็ลืมเรื่องแดดไปเลย

“เอาง่ายๆ ลงเยอะกว่าผู้ชายบางคนที่อยู่เขตเดียวกันหรือเขตอื่นๆ เพราะว่าเราเป็นคนทำอะไรคือทำจริง เพราะว่าต้องบอกก่อนด้วยเวลาที่บีบของการเลือกตั้งรอบนี้ แค่ไม่ถึง 2 เดือนในการหาเสียง เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ประชาชนรู้จักเราในฐานะนักการเมือง แค่ติดป้ายมันทำไม่ได้อยู่แล้ว”

กระแสตอบรับ

ได้รับกระแสตอบรับค่อนข้างดี อย่างในโซเชียลก็จะมีคนให้กำลังใจเราตลอด เวลาลงพื้นที่ ประชาชนก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ด้วยความที่เราเป็นผู้หญิง เราจะได้การเปิดรับที่ดี เขากล้าที่จะเล่าปัญหาต่างๆ ให้เราฟัง ซึ่งการที่เรารับรู้ถึงปัญหาเหล่านี้ และรู้ว่าเราสามารถช่วยเหลืออะไรเขาได้บ้าง ช่วยเติมพลังให้เราได้เยอะเลย ถึงแม้ว่าสุดท้ายเราจะได้เป็น ส.ส. หรือไม่ได้เป็น ส.ส. แต่เราก็รู้ว่าเราสามารถเข้าไปช่วยเหลือเขาได้

มีเคสหนึ่งอายหาเสียงที่ตลาดเสนา ด้วยความที่น้องเขาจำได้ว่าเราเคยเล่นละคร เขาเลยกล้าที่จะเดินเข้ามาหาเราเพื่อที่จะบอกว่า พี่อายคะ แล้วเขาก็ร้องไห้เลย อายถามว่าเป็นอะไร เขาก็เล่าให้ฟังว่าคุณพ่อเขาติดคุกเพราะโดนกล่าวหาว่าไปขโมยของ แต่พ่อเขาไม่ได้ทำ

ซึ่งถ้าอายไม่ได้มาลงเป็นผู้สมัคร ส.ส. อายก็คงจะไม่รู้เลยว่าประเทศไทยมีปัญหานี้ คือการที่เขาก็ยืนยันว่าคุณพ่อเขาไม่ได้ทำอะไรผิด คืนที่คุณพ่อเขาโดนกล่าวหาว่าไปขโมยของ คุณพ่อเขาก็อยู่กับเขา แล้วเนื่องจากคุณพ่อเขาเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว พอเสียคุณพ่อไปหนึ่งปี สภาพชีวิตของครอบครัวเขาก็เดือดร้อน

เขาก็ถามเราว่าถ้าเราเป็นนายกเราจะช่วยเขาได้ไหม คือเขาไม่รู้ว่าเราสมัคร ส.ส. เขาอายุแค่เอง 16 เราเลยโทรไปคุยกับทนายเขา ซึ่งทนายเขาก็ให้ข้อมูลว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ อยู่ที่ว่าจะสู้ยังไง เราก็เลยรับรองกับน้องเขาว่าต่อให้เราไม่ได้เป็น ส.ส. ในรอบนี้ เราก็จะลองดูว่าเราจะช่วยเขายังไง วันนั้นทำให้อายรู้ว่าการที่ประชาชนไม่ได้มีสิทธิ์มีเสียงหรือมีเส้นสายอะไร ก็ทำให้จากผิดเป็นถูกได้เหมือนกัน อายรับไม่ได้ถ้าสังคมจะเป็นแบบนั้น

ไอดอลในการดำเนินชีวิต

จริงๆ ต้นแบบของอายคือคุณพ่อค่ะ เวลาอายมีปัญหา อายก็จะขอธรรมะจากคุณพ่อ ไม่ว่าอายจะโดนเอาเปรียบหรือตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้รับความยุติธรรม คุณพ่อก็จะคอยเตือนสติ บางทีเราก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่เป็นสัจธรรมบ้าง ทำให้อายมีความคิดว่าเมื่อไหร่ที่เราท้อ เราก็ต้องก้าวข้ามมันไป

เรื่องหัวใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง 

ตอนนี้ก็ยังดูแลตัวเองต่อไปอยู่ค่ะ จริงๆ ก็เป็นคนสตรองอยู่แล้ว เลยรู้สึกว่าถ้าจะมีใครสักคนก็อยากจะใช้ชีวิตกับคนที่คิดว่าเป็นไปได้มากที่สุด ถ้ามีโอกาสก็ขอดูๆ กันไปก่อน

สเปคผู้ชาย เป็นแบบไหน

ส่วนตัวชอบคนที่มีนิสัยเป็นผู้ใหญ่ค่ะ ชอบคนที่นึกถึงความรู้สึกของผู้อื่นก่อนเสมอ ชอบคนหนักแน่น แล้วก็เป็นคนดูแลตัวเองและดูแลคนอื่นได้ด้วย

คิดยังไงกับประโยคที่ว่า “สวยและเก่ง จนผู้ชายไม่กล้ามาจีบ”

เราเชื่อว่าผู้ชายก็คงชื่นชมผู้หญิงที่เก่ง แต่ว่าโอกาสที่เขาจะกล้ามาจีบ เขาต้องคิดเยอะ เพราะผู้ชายไม่ชอบเสียหน้า เขาต้องมั่นใจว่าจีบติด จริงๆ แล้วต้องบอกผู้ชายหลายๆ คนเลยว่าควรจะมีภรรยาที่เก่งเพราะเบื้องหลังการประสบความสำเร็จของผู้ชายคือมีภรรยาที่เก่ง บางเรื่องที่ผู้หญิงถนัดก็เป็นผู้นำได้ บางเรื่องผู้ชายถนัดก็เป็นผู้นำ ไม่แนะนำให้ผู้หญิงเป็นผู้ตามซะทุกเรื่อง

ฝากถึงผู้หญิงทุกคนที่มี Passion

อายเชื่อว่าคนที่เกิดมาแล้วทำเป็นเลย เกิดมาเก่งเลยไม่มีหรือมีแต่น้อยมาก เพราะว่าทุกคนก็ต้องเริ่มต้นจากการฝึกฝนและพัฒนาตัวเอง สำหรับอายแล้วสิ่งสำคัญคือการพัฒนาตัวเอง อายไม่ใช่คนเก่งอย่างที่คนอื่นเข้าใจเลย แต่อายเป็นคนพยายามมากๆ ถ้ารู้ว่าเราทำไม่ได้ จะพยายามให้ได้จนถึงที่สุด สุดท้ายเราทำได้หรือไม่ได้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่าไม่ใช่ งั้นลองไปอีกทาง ชีวิตมีอะไรมากมายให้เราได้ทำ มีอะไรมากมายให้เราได้ลอง สุดท้ายเราจะได้รู้ว่าอะไรที่เราทำแล้วมีความสุขที่สุด

ติดตาม “อาย พรไพรินทร์” ได้ทาง Facebook Eye Warapairin Official และ IG @warapairin