สาว ๆ คนไหนที่กำลังมองหานาฬิกาสไตล์มินิมอล ๆ คลาสสิก ๆ สักเรือนที่ใส่ได้ไม่มีเบื่อละก็ Swatch เขาก็จัดให้กับการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ ‘ SKIN Irony ‘ ที่ได้ผสานจุดเด่นของดีไซน์และความบางของคอลเลคชั่น Skin เข้ากับวัสดุที่มีความทนทานและสวยงามอย่าง Stainless Steel โดยมีความบางเพียง 5.8 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือเป็นนาฬิการุ่นแรกที่ใช้ Stainless Steel เป็นวัสดุในการผลิตที่มีความบางที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา ตอกย้ำความเป็นผู้บุกเบิกนาฬิกาแบบใหม่ที่ทันสมัยในยุคปัจจุบัน
SKIN Irony คือ การรวมตัวของแนวคิด Minimal และนวัตกรรมนาฬิกา โดยได้รังสรรค์ออกมาเป็นไอเทมสุดคลาสสิคของวันนี้และอนาคต ซึ่งในครั้งนี้ได้รับการถ่ายทอดผ่าน Influencer ที่มี Lifestyle กับผลงานที่โดดเด่นในโลกของแฟชั่น รวมถึงความสามารถหลากหลายด้าน ถึง 3 คน อย่าง ดารัน แมน และพีเค ที่ได้มาบอกเล่าเรื่องราว เพื่อสะท้อนให้เห็นตัวตนของผู้ใส่ ในแบบที่แตกต่างแต่ลงตัว ด้วยคอนเซ็ปต์ #FutureClassic ซึ่งนับเป็นการนิยามนาฬิกาแนวคลาสสิคยุคใหม่ ที่มีความล้ำสมัย และหรูหรา แถมยังถูกออกแบบมาให้ดูมีความ minimal อย่างแท้จริง ด้วยสีสันที่เรียบแต่ชัดเจน ดีไซน์ที่ตอบโจทย์ ทั้งความเป็นผู้ชายมีสไตล์ทันสมัยและผู้หญิงที่มีความมั่นใจ อีกทั้งยังคงเดินตาม 3 แนวคิดหัวใจสำคัญของคอลเลคชั่นนี้อีกด้วย
- Minimalistic reduction ดีไซน์เรียบง่าย สะอาด สำหรับผู้ที่รักนาฬิกาตัวเรือนบาง และทันสมัย
- Pure chic นี่เป็นนาฬิกาที่ใส่ได้ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย (unisex) และบ่งบอกสไตล์สวยงามโฉบเฉี่ยวทันสมัย ที่คุณใส่แล้วจะไม่อยากถอดออกเลยทีเดียว
- Lifestyle statement สีสันและดีไซน์ของนาฬิกาคอลเลคชั่นนี้ ให้ความรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา แฝงด้วยความสปอตตี้เล็กๆแบบนักกีฬา ตามเทรนด์แฟชั่นในปัจจุบัน
“สำหรับคอลเลคชั่น SKIN Irony นี้ เราตั้งเป้าที่จะสร้างสรรค์สไตล์ใหม่ แบบคนรุ่นใหม่ เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความซับซ้อน มันคือสิ่งที่เป็นตัวแทนในการบอกเล่าถึงความเป็นตัวตนของคนรุ่นใหม่ และความโดดเด่นในด้านการออกแบบแม้ว่าจะเป็นแนวคิดในแบบ Minimal ก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นนาฬิกาคอลเลคชั่นนี้จะก่อให้เกิดสัมผัสแห่งความพึงพอใจแม้ว่าจะแค่ได้เห็น และเมื่อสัมผัส จะรู้สึกได้ถึงการสะท้อนให้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของผู้สวมใส่ได้อย่างโดดเด่น” Carlos Giordanetti, Creative Director ของ Swatch กล่าว
“แมน” ธฤษณุ สรนันท์ ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-เดนมาร์กเจ้าของหุ่นนักกีฬาและส่วนสูง 190 เซนติเมตร กับรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ของเขาอาจเป็นภาพที่ทำให้ใครหลายๆ คนหลงใหลในฐานะผู้ชายมาดอบอุ่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งดังกล่าวเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ ในใบเบิกทางที่ซื้อโอกาสให้ผู้คนได้รู้จักเขามากขึ้นผ่านความสามารถอันหลากหลายที่ถูกกาลเวลาชักนำมาประดับอยู่บนพื้นที่จอแก้วในปัจจุบัน
“เรื่องราวและการส่งผ่าน” คือ ความคลาสสิคในมุมมองของแมน สำหรับเขาแล้วทุกความ “คลาสสิค” มีจุดเริ่มต้นจากเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดและถูกเก็บรักษามาเป็นเวลาช้านาน เป็นเรื่องราวที่ได้รับการยอมรับและทำให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทั้งในวันวาน วันนี้ และคืนวันต่อๆ ไปในอนาคตข้างหน้า เพราะเรื่องราวต่างๆ ล้วนมีส่วนในการบ่มเพาะและสร้างคุณค่าของความ “คลาสสิค” ให้มีอยู่โดยไม่เลือนหาย และไม่เสื่อมคลาย
ภาพยนตร์แห่งความคลาสสิกในใจของแมน คือภาพยนตร์แก๊งส์เตอร์ที่มีเรื่องราวที่ส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น เป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความทรงจำระหว่างตัวเขาในวัยเด็กกับพ่อที่ได้ชักนำเด็กผู้ชายคนหนึ่งให้เขาสู่โลกของความรักในภาพยนตร์ และหลงไหลในเรื่องราวของเหล่ามาเฟีย
“วันเวลาทำให้เนื้อสีบนแผ่นฟิล์มจางลงไปตามความเก่า
แต่สำหรับแมนแล้วเรื่องราวในภาพยนตร์คือความคลาสสิค…”
“ดารัณ” เศรษฐณิช ชนวราสุทธิศิริ สาวน้อยหน้าใสลูกครึ่งไทย-นิวซีแลนด์ ผู้ผ่านการประกวดจากเวที The Face Thailand มาแล้วถึง 2 Season ไม่ใช่เพียงเด็กน้อยผู้อ่อนแอในภาพจำของผู้ติดตามรายการอีกต่อไปแล้ว ในวันนี้ความเปลี่ยนแปลงของเธอไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อสกุลที่ถูกทำให้แตกต่างออกไปจากเดิม แต่ดารัณยังได้ก้าวผ่าน “กาลเวลา” ของชีวิตที่ทำให้เธอดูงดงามขึ้นด้วยความมั่นใจที่ฉายชัด ความเป็นมืออาชีพ ความรู้ และทักษะในการทำงานที่แสดงออกมา
นิยามความคลาสสิคสำหรับดารัณ คือความเป็นต้นฉบับหรือต้นแบบที่มีคุณค่าข้ามกาลเวลา สำหรับเธอแล้วความคลาสสิคก็เปรียบได้กับอาหารจานหนึ่ง ที่รสชาติและรูปแบบในจานเหล่านั้นต้องบ่งบอกถึงสัญชาติและความเป็นต้นตำรับที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวมันเองได้ สิ่งที่คลาสสิคจึงเป็นสิ่งเฉพาะที่ขับเน้นและแสดงตัวตนของสิ่งเหล่านั้น ซึ่งแสดงคุณค่าผ่านเอกลักษณ์ ภายใต้ความเรียบง่าย แต่หรูหรา และเปี่ยมไปด้วยมูลค่าของมัน
หากกล่าวถึงบุคคลคลาสสิคในมุมมองของดารัณแล้ว เธอมองว่าความเป็นตัวของตัวเองคือเอกลักษณ์อันเด่นชัดที่สุด ที่จะทำให้ผู้คนดูมีคุณค่าแตกต่างไปจากคนอื่นๆ คุณค่าจากภายในเหล่านี้จะเป็นสิ่งสะท้อนที่แสดงภาพของความ “คลาสสิค” ในผู้คนให้โลกภายนอกได้รับรู้
“กาลเวลานำพาหลายสิ่งเข้ามาและจากไป
แต่ความคลาสสิคในหัวใจของดารัณ คือสิ่งที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์อันข้ามกาลเวลา…”
“พีเค” พัสกร วรรณศิริกุล ที่มาพร้อมมาดกวน ๆ และคาแร็กเตอร์ของเด็กซน ๆ จากหนุ่มน้อยนักเรียนนอกผู้มีความสนใจด้านจิตวิทยา ทำให้เขาได้รับความสนใจและถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในระยะเวลาไม่นาน ในวันนี้กาลเวลาได้นำพาโอกาสใหม่ ๆ แห่งวงการบันเทิงให้เข้ามาพบเจอกับชีวิตของเขา และทำให้ผู้คนได้รู้จักกับมุมมองเบื้องลึก ที่แฝงไปด้วย ความน่ารัก บุคลิกอันจริงใจ และความเป็นสุภาพบุรุษ ที่เป็นพลังขับเคลื่อนตัวของเขาเองและยังเป็นพลังงานที่หล่อเลี้ยงผู้คนรอบ ๆ กายอีกด้วย
ความคลาสสิคในสายตาของพีเค คือ “ความดีงาม” ที่ไม่ถูกผูกมัดด้วยข้อจำกัดของ “กาลเวลา” สำหรับพีเคแล้วไม่ว่าจะเจเนอเรชั่นไหน ๆ ช่วงวัยใด ๆ ความคลาสสิคจะเป็นสิ่งที่คงอยู่ และถูกตอบรับในสถานะของสิ่งที่เคยเป็นสิ่งที่ดี ยังคงเป็นสิ่งที่ดี และจะทำหน้าที่ส่งทอดคุณค่าของความดีงามของมันต่อไปอย่างที่มันควรจะเป็น “คลาสสิค” จึงเป็นสิ่งที่สถิตอยู่บนเพดานของสิ่งที่ดีงามที่มนุษย์มองเห็น
สำหรับพีเคแล้วนาฬิกาที่คลาสสิคซักเรือนหนึ่งคือนาฬิกาที่จะมอบความสุขกับตัวเขาเองในทุกครั้งที่ได้สวมใส่ และมีมันไปได้เรื่อยๆ แม้ว่ากาลเวลาจะล่วงเลยผ่านไปนานแค่ไหน นอกจากนั้นแล้วนาฬิกาเรือนนั้นยังควรจะเป็นสิ่งส่งต่อที่เขาสามารถมอบมันให้กับลูก ของเขาต่อไปได้ในอนาคต
“เพราะความคลาสสิค คือความดีงามที่ไร้ขอบเขตแห่งเวลา…”
มาร่วมสัมผัสความบางและความคลาสสิกที่มีสไตล์ของ SKIN Irony ทั้ง 8 รุ่น ได้แล้วที่ Swatch Shop หรือใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มก่อนที่จะไปดูของจริงก็เข้าไปที่นี่ Swatch เลยจ้ะ แล้วมาคอมพลีทลุคมินิมอลกันด้วยนาฬิการุ่นนี้กัน!