สาวเก่ง สาวมั่น โดยเฉพาะสาวสายแฟ เชื่อเลยว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘แอนนา วินทัวร์ (Anna Wintour)’ แฟชั่นไอคอนแห่งวงการแฟชั่น บรรณาธิการที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งนิตยสารโว้ก (Vogue) ราชินีน้ำแข็งเจ้าของที่นั่งแถวหน้าของทุกเวทีแฟชั่นโชว์ ผู้มาพร้อมกับผมบ๊อบและแว่นดำที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างแน่นอน
และเพราะความเก่งกาจที่ทำให้เธออยู่ยงคงกระพันในวงการนิตยสารและแฟชั่นมามากกว่า 30 ปี ThePassion จึงขอยกให้เธอเป็นหนึ่งในไอดอลของสาวมั่นยุคใหม่ เพราะฉะนั้นอย่ารอช้า มาย้อนดูประวัติและแนวคิดที่น่าสนใจของเธอเพื่อนำมาปรับใช้ให้การทำงานและชีวิตของเราเป๊ะปังกันดีกว่าสาวๆ กับ 5 กฏเหล็กเบื้องหลังของความสำเร็จของแอนนา วินทัวร์

แอนนา วินทัวร์ เริ่มเข้าสู่วงการแฟชั่นในปี 1970 จากตำแหน่งนักเขียนบทความแฟชั่นที่ฮาร์เปอร์สแอนด์ควีน (Harper’s & Queen) ก่อนที่จะมาลงเอยเป็นบรรณาธิการของนิตยสารโว้กในปี 1988 หลังจากการเข้ามาของเธอและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทำให้นิตยสารโว้ก เติบโตขึ้นจนมียอดขายสูงที่สุดในประวัติการณ์ และปัจจุบันเธอมีทรัพย์สินส่วนตัวถึง 35 ล้านดอลลอร์สหรัฐ!!
@wintourworld
1. เป็นผู้นำที่ดี

แอนนา วินทัวร์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของกองเด นาสต์ (Conde Nast) ซึ่งเป็นผู้จัดพิมพ์ของโว้ก ในปี 2013 และเข้ามาช่วยไซน์ นิวเฮ้าสท์ (Si Newhouse) ในการบริหารบริษัท หลังจากมีข่าวลือมากมายว่าเธอกำลังจะเกษียณจากการเป็นบรรณาธิการ โฆษกของบริษัทก็ได้ออกมาแถลงถึงตำแหน่งดังกล่าวว่าถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแอนนาโดยเฉพาะ
ความตั้งใจที่จะอุทิศตนให้กับนิตยสารโว้ก ทำให้วิสัยทัศน์ต่อบริษัทของเธอชัดเจน ดังที่เธอเคยกล่าวไว้ว่าการเป็นผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ คือการทำสิ่งที่เธอรักในสเกลที่ใหญ่ขึ้น จากการดูแลนิตยสารเพียงเล่มเดียวกลายเป็นการที่เธอได้ดูแลนิตยสารทั้งหมดในเครือของกองเด นาสต์ ซึ่งเธอก็สามารถทำหน้าที่นี้ได้ดี และความเป็นผู้นำของเธอนี่เองที่พาเธอไปสู่ความสำเร็จในอาชีพของเธอ
2. มีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่

ในปี 2009 ผู้กำกับ R.J. Cutler ได้สร้างภาพยนตร์สารคดีเรื่อง The September Issue ซึ่งเกี่ยวกับมิตรภาพระหว่าง Anna Wintour และ Grace Coddington
ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากของการอยู่ในวงการแฟชั่น และการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ของ แอนนา วินทัวร์ โดยหลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายออกมา เธอก็ได้ฉายาว่าเป็น ‘ราชินีน้ำแข็ง’ และถึงแม้ว่าฉายาดังกล่าวจะฟังดูเหมือนว่าเธอเป็นคนที่เฉยฉา แต่เธอก็ออกมาปกป้องภาพยนตร์ดังกล่าว และยอมรับว่าเธอรักในตัวตนของเธอและอาชีพของตนเอง
3. ยอมรับความผิดพลาด

ในปี 1975 แอนนาถูกไล่ออกจากนิตยสารฮาร์เปอร์สบาซาร์ (Harper’s Bazaar) หลังจากทำงานได้ 9 เดือน แต่จากนั้นไม่นานเธอก็ได้เข้าไปทำงานกับนิตยสารวีว่า (Viva) ก่อนที่นิตยสารจะปิดตัวลงเพราะปัญหาทางด้านการเงิน แอนนาตัดสินใจพักงานไประยะหนึ่ง ก่อนที่จะได้รับโอกาสเข้าสัมภาษณ์งานกับนิตยสารโว้ก
แอนนากล่าวถึงความล้มเหลวของเธอว่า “ทุกคนควรจะผ่านการล้มเหลวอย่างน้อยหนึ่งครั้ง เพราะนั่นจะเป็นบทเรียนที่สอนเราว่า ‘ความสมบูรณ์แบบ’ นั้นไม่มีจริง สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้จักการพ่ายแพ้ เพราะนั่นคือความเป็นจริงของชีวิต”
4. เป็นตัวของตัวเอง

การที่เธอไม่ยอมแพ้ที่จะทำตามความฝันของเธอ ทำให้เธอกลายเป็นเจ้าของนิตยสารโว้ก และได้รับการยกย่องจากจากบุคคลต่างๆ ในวงการแฟชั่น
แอนนากล่าวถึงการตัดสินใจของเธอว่า “แม้ว่าคุณจะไม่มั่นใจในตัวเองมากแค่ไหน จงแสร้งว่าคุณมั่นใจ เพราะมันจะทำให้คนอื่นเชื่อมั่นในตัวคุณ”
5. ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด

แอนนานับถือและชื่นชมพ่อของเธอมาก เขาเป็นคนที่เย็นชาและเข้าถึงยากจนถูกขนานนามว่า “Chilly Charlie” ในขณะที่เธอเองก็ยากที่จะเข้าถึงไม่ต่างกับพ่อของเธอ และยังเว้นระยะห่างระหว่างเธอและเพื่อนร่วมงานด้วย แม้กระทั่งกับเพื่อนสนิทของเธอเอง จนได้รับฉายาว่า ‘Nuclear Wintour’
อย่างไรก็ตาม ความอุตสาหะในการงานและความเป็นตัวเองของเธอ ส่งผลให้โว้กยังคงเป็นหนึ่งในนิตยสารที่ขายดีที่สุดและมีอิทธิพลในวงการแฟชั่นอย่างแท้จริง
ได้แนวคิดดีๆจากหญิงเก่งอย่าง แอนนา วินทัวร์ ไปแล้ว หวังว่าสาวๆ ThePassion จะมีกำลังใจในการทำงานและดำเนินชีวิตไปให้ประสบความสำเร็จอย่างที่หวังนะคะ