ขึ้นชื่อว่าการทำ ศัลยกรรมหน้าอก สาวๆหลายคนอาจมีคำถามคาใจที่เคยได้ยินกันมาว่า “การทำศัลยกรรมหน้าอก เจ็บเหมือนถูกรถสิบล้อทับ”  นั้นจริงหรือไม่ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจจากศัลยแพทย์ถึงประเด็นต่างๆที่สาวคิดจะศัลยกรรมหน้าอกควรรู้เบื้องต้นก่อนตัดสินใจขึ้นเขียงอัพไซซ์เพื่อความงามที่พึงปรารถนากันในระยะยาวค่ะ

น.พ. ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่ง ผู้บริหารโรงพยาบาลและศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด ได้อธิบายถึงการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกและข้อควรรู้ดังนี้

ศัลยกรรมหน้าอก

เทคโนโลยีผ่าตัด

“การผ่าตัดเสริมหน้าอกในสมัยก่อน (Blunt Dissection Technique) อาจจะเจ็บเหมือนรถสิบล้อทับได้ครับ แต่ในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์ได้ก้าวหน้าและพัฒนาไปมาก โดยได้มีการพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดและเครื่องมือ (Sharp Dissection Technique) ทำให้เนื้อเยื่อได้รับความบอบช้ำน้อยลง พร้อมกับการส่องกล้องช่วยผ่าตัด (Endoscopic Assisted Surgery) และมียาในการระงับปวดที่ดีหลังการผ่าตัด ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วคนไข้จะใช้เวลาพักฟื้นเพียง 1-2 วัน ก็สามารถกลับไปทำงานตามปกติได้แล้ว นอกจากนี้เทคนิคการผ่าตัดของแพทย์ การผ่าตัดที่ดีมีเลือดคั่งน้อย ไม่มีการติดเชื้อ จะทำให้โอกาสเกิดพังผืดน้อยกว่า รวมทั้งชั้น (plane) ในการเสริมหน้าอก (เหนือ/ใต้/ระหว่างกล้ามเนื้อ/dual plane) แพทย์ก็ต้องเลือกวิธีผ่าตัดให้เหมาะสมสำหรับแต่ละคน จึงจะได้ผลดีในระยะยาวแลดูเป็นธรรมชาติครับ ดังนั้นอาการเจ็บจากการผ่าตัดในปัจจุบันจึงไม่รุนแรงเท่าสมัยก่อนครับ”

ชนิดของซิลิโคน

“นอกจากในเรื่องของเครื่องมือทางการแพทย์แล้ว ปัจจุบันยังได้มีการพัฒนาซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมหน้าอก มากมายหลายรุ่น หลายเกรด ตามยุคสมัย หากได้รับการเสริมหน้าอกเมื่อก่อน 20 ปีที่แล้ว แนะนำให้กลับไปตรวจเช็คกับแพทย์ครับ เพราะมีโอกาสที่ซิลิโคนจะเสื่อมสภาพได้ เช่น ซิลิโคนรั่ว แข็งตัว ไม่ได้รูปทรง ซึ่งควรทำการเปลี่ยนใหม่เพื่อความปลอดภัยครับ แต่สำหรับคนที่เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนในยุคปัจจุบัน โอกาสรั่ว หรือมีปัญหาจะน้อยลงมากครับ ซึ่งจากการวิจัยพบว่าสามารถอยู่กับเราได้ตลอดชีวิต และไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหากไม่มีปัญหาครับ”

“ชนิดของซิลิโคนและวัสดุที่เลือกใช้สำหรับเสริมหน้าอก ก็มีผลต่อความเป็นธรรมชาติของทรวงอกเช่นกัน โดย ซิลิโคน ผิวทราย ในระยะยาวโอกาสที่จะเกิดพังผืดมีน้อยกว่าการใช้ซิลิโคนผิวเรียบ และการใช้ซิลิโคนทรงหยดน้ำจะทำให้ได้ทรงที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าทรงกลม เป็นต้น”

ขนาดการเสริมที่เหมาะสม

“ทั้งนี้ในการเสริมหน้าอกนั้นควรเสริมขนาดให้มีความเหมาะสมกับโครงสร้างของตัวเราด้วย โดยแพทย์จะตรวจวัดอย่างละเอียดและช่วยแนะนำขนาดที่พอเหมาะให้กับคนไข้ เช่น คนที่ฐานหน้าอกแคบประมาณ 5 ซม. แพทย์วัดละเอียดแล้ว พอดีกับซิลิโคนขนาด 275 ซีซี เราก็ควรเลือกขนาดประมาณ 275 ซีซี หรือน้อยกว่านั้น (250,230 ซีซี ได้ครับ) แต่ไม่ควรใหญ่เกินที่วัดและคำนวณไว้ เพราะการใส่ซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่กว่าโครงสร้างของเรา อาจทำให้ดูสวยในระยะแรกๆ แต่ต่อมาจะดูไม่เป็นธรรมชาติ หน้าอกจะเกิดพังผืดรัด แข็ง ผิดรูปได้ง่าย ดั้งนั้นการเสริมด้วยขนาดที่พอดีกับร่างกายเราจะดีที่สุดครับ”

การดูแลหลังผ่าตัด

“การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด ก็เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยลดพังผืดที่จะทำให้หน้าอกแข็งผิดรูปได้ โดยแนะนำให้ทำการนวดหน้าอก รวมทั้งดูแลรักษาแผลผ่าตัดตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็สามารถทำให้หน้าอกใหม่ที่สวย นุ่ม ดูเป็นธรรมชาติได้ในระยะยาวอีกด้วยครับ”

รู้อย่างนี้แล้วสาวๆคงเบาใจกันไปได้บ้างว่าการทำศัลยกรรมหน้าอกในยุคปัจจุบันนั้นไม่ได้เจ็บเหมือนรถสิบล้อทับอย่างที่คิด แต่อย่างไรก็ตามควรมีการศึกษาข้อมูลต่างๆให้ดีเสียก่อนถึงข้อดี ข้อเสีย และผลกระทบต่างๆในการทำศัลยกรรมนั้นๆ ไม่เช่นนั้นหากต้องมานั่งแก้หรือมีปัญหาตามมาทีหลังแล้วคงไม่งามแน่ๆค่ะ

ศัลยกรรมหน้าอก

เกี่ยวกับศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด (BANGMOD AESTHETEC CENTER)

ศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด (BANGMOD AESTHETEC CENTER) เป็นศูนย์ศัลยกรรมความงามชั้นนำของประเทศไทย ได้ถือกําเนิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530 โดยความคิด ของ .พ.สุรสิทธิ์ อัศดามงคล บิดาของ น.พ. ธนัญชัย  อัศดามงคล  แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง ตั้งอยู่ที่ชั้น 12 ของอาคารโรงพยาบาลบางมด ซึ่งไม่เพียงแต่มุ่งเน้นด้านศัลยกรรมเสริมความงามเท่านั้น แต่ยังให้บริการด้านแก้ไขจุดบกพร่องของร่างกายควบคู่ไปด้วย  เพื่อประโยชน์ต่อคนทุกคนในสังคม โดยเป็นที่ยอมรับในวงกว้างจากทั้งคนมีชื่อเสียงในประเทศและชาวต่างชาติ

พบประสบการณ์ความงามที่ทุกคนบอกต่อด้วยตัวของคุณเองวันนี้ ที่ศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร: 0-2867-0606 # 1200, Website: www.bangmodaesthetic.com

Facebook: https://www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter/