Giordano Ladies (จิออร์ดาโน่ เลดี้ส) ชวน 4 เซเลบริตี้สาวเวิร์คกิ้งวูแมนชื่อดังมาเปิดมุมมองการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ พร้อมเผยสไตล์การแต่งตัวอันเรียบโก้ กับคอลเลกชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2018 ‘บี ที่ชื่อว่า เฮียร์ นาว ; ดิ อาร์ต ออฟ สโลว์เนส’
ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในยุคปัจจุบัน นอกจากจะต้องมีความสามารถในการทำงานรอบด้านแล้ว การดูแลตนเองให้มีบุคลิกภาพที่ดีอยู่เสมอก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะในทุกวันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะพบเจอผู้คนที่แปลกใหม่หรือการได้รับโอกาสใหม่ๆ ซึ่งความประทับใจแรกพบนั้นนับเป็นประตูบานแรกที่จะเปิดโอกาสให้เข้าใกล้ความสำเร็จไปอีกขั้น ทางแบรนด์เสื้อผ้า ‘จิออร์ดาโน่ เลดี้ส’ ( Giordano Ladies ) จึงได้เชิญ 4 เซเลบริตี้เวิร์คกิ้งวูแมนมาร่วมถ่ายทอดมุมมองการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด และแนวคิดการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ รวมถึงเคล็ดลับการแต่งตัวที่ช่วยเสริมบุคลิกเพื่อเพิ่มความมั่นใจในเวลาที่ต้องไปทำงานตามสไตล์ของตนเอง
เริ่มจากสาวเก่งเจ้าของฉายาเจ้าแม่ดิสนีย์เมืองไทย แพร แพรพรรณ ธรรมวัฒนะ เจ้าของร้านของเล่น เพลย์เฮ้าส์ (Play House) และธุรกิจนำเข้าเครื่องประดับ กะรัต ลอนดอน (Carat London) โดยมีหัวใจหลักของการทำงานคือความขยันและรู้จักแบ่งเวลาให้เป็น ‘ตอนนี้เราทำธุรกิจหลายอย่าง ซึ่งในหนึ่งสัปดาห์ก็ทำงานครบทั้ง 7 วัน โดยแต่ละวันก็จะวางแผนไว้เลยว่าวันนี้จะทำของแบรนด์อะไร ปกติจันทร์-ศุกร์ ก็จะเข้าออฟฟิศ ส่วนเสาร์-อาทิตย์ ก็จะเข้าหน้าร้าน เพราะเราก็ต้องลงไปดูแลลูกค้าเองด้วยว่ามีอะไรที่ยังต้องปรับปรุงบ้าง อย่างช่วงแรกที่เริ่มทำร้านของเล่นก็จะมีปัญหาเรื่องลูกค้าแย่งของกัน เราก็ต้องแก้ปัญหาด้วยความใจเย็น ไม่ย่อท้อกับปัญหา พยายามปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งพอธุรกิจนี้เข้าที่เราก็เริ่มมองหาการทำธุรกิจใหม่ๆ เพราะเชื่อเสมอว่าชีวิตของคนเราต้องไม่หยุดที่จะเรียนรู้ แต่นอกเหนือจากเรื่องงานแล้ว ก็ต้องรู้จักแบ่งเวลาไปทำอย่างอื่นด้วย เพราะผู้หญิงเรามีหลายบทบาทความรับผิดชอบ ทั้งการทำงาน การเป็นลูก การเป็นเพื่อน หรือแม้แต่การเป็นภรรยา หลังจากเลิกงานก็ต้องใช้เวลาอยู่กับครอบครัว กับเพื่อน เพื่อเป็นการพักผ่อน ถ้าช่วงไหนมีเวลาก็จะออกเดินทางเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิต
ส่วนการแต่งตัวเวลาทำงาน ถ้าเป็นนัดสำคัญที่ต้องพบผู้ใหญ่เราก็จะคำนึงกาลเทศะเป็นอันดับแรก สไตล์เราก็จะชอบใส่กางเกงขายาวสีดำใส่กับเสื้อเชิ้ตทรงเรียบโก้ แล้วเพิ่มเครื่องประดับอย่างตุ้มหูเพชร นาฬิกาที่ดูดีก็จะดูน่าเชื่อถือขึ้น ส่วนลุคทำงานในวันปกติก็จะเน้นความทะมัดทะแมง อย่างวันนี้ก็เลือกใส่กางเกงพลีทสีดำแมทช์กับเสื้อเปิดไหล่ ก็จะได้ลุคที่คล่องตัวที่มีความเฟมินีนแฝงอยู่’
ด้านสาวยิ้มสดใส แป้ง อัชฌา เจริญรัศมีเกียรติ ผู้เชื่อเสมอว่าการมีทีมที่ดีและให้คนทำงานตามความสามารถจะทำให้ธุรกิจเติบโตได้เร็ว โดยปัจจุบันเป็นผู้นำเข้าคาเฟ่ขนมหวานจากไต้หวัน คิวคิว ดิเสิร์ท (QQ Dessert) ที่สามารถขยายสาขาได้มากถึง 6 สาขาภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี ‘การเริ่มต้นทำธุรกิจของเรานั้นเริ่มจากการมองเรื่องใกล้ตัวว่าเราชอบอะไร ถนัดอะไร แล้วก็พยายามเปลี่ยนสิ่งนั้นให้มีมูลค่า เพราะถ้าเราได้ทำในสิ่งที่รักในทุกๆวัน เราจะทำมันได้ดี อย่างเราเป็นคนที่ชอบกินขนม ชอบลองอะไรใหม่ๆ และเป็นคนเดินทางบ่อยก็จะได้ไปลองกินของอร่อยอยู่เสมอ จนกระทั่งได้ไปเจอคิวคิว ดิเสิร์ท ที่เป็นขนมหวานของคนไต้หวัน กินง่ายและกินแล้วสดชื่นเหมาะกับอากาศร้อนของเมืองไทย บวกกับช่วงนั้นเทรนด์สุขภาพในบ้านเรากำลังมาแรง จึงตัดสินใจนำเข้ามาทันที
โดยหัวใจหลักในการเริ่มต้นทำแบรนด์ก็คือทีมงาน เราต้องรู้ความสามารถและศักยภาพของแต่ละคนว่าใครถนัดด้านไหน ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้แบรนด์เติบโตได้อย่างรวดเร็ว อย่างเราเองก็มีพาร์ทเนอร์ 3 คน ที่แต่ละคนก็จะมีหน้าที่หลักแตกต่างกัน คนแรกก็จะดูเรื่องไฟแนนซ์ คนถัดมาจะควบคุมเรื่องเมนูอาหารและรสชาติ ส่วนเราจะดูแลเรื่องการตลาดและการโปรโมท ซึ่งแน่นอนว่าภาพลักษณ์คือสิ่งสำคัญ
สไตล์การแต่งตัวไปทำงานของเราก็จะเป็นแบบมิกซ์แอนด์แมทช์สนุกๆ แต่ต้องแฝงความโดดเด่น อย่างการมีเครื่องประดับที่เป็นกิมมิคเพิ่มเข้ามา อย่างลุคที่ใส่วันนี้ก็เลือกแมทช์จากสีที่เป็นโทนสีตุ่น ด้วยเสื้อแขนกุดสีเหลืองกับกางเกงทรงซิกกาแรตต์สีเขียว ซึ่งเป็นกางเกงที่ผู้หญิงทุกคนควรมีติดตู้ไว้ เพราะใส่ง่ายเข้าได้กับหลายชุด แล้วก็เพิ่มกิมมิคด้วยผ้าโพกหัวเก๋ๆ แต่หากจะต้องไปพบลูกค้าคนสำคัญเราก็แค่หยิบสูทสีดำมาสวมทับแล้วถอดผ้าโพกหัวออกก็โอเคแล้ว’
ถัดมาที่เจ้าของธุรกิจอาหารปูดองสไตล์เกาหลีเจ้าแรกของเมืองไทย ปูดองอันยอง ที่ประสบความสำเร็จจนมีหน้าร้านถึง 14 สาขา จากความใส่ใจรายละเอียดในทุกกระเบียดนิ้วของการทำแบรนด์ โดย จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา จนต่อยอดสู่ร้านอาหาร โซลจู ปูดอง ‘อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ในการดำเนินชีวิตของคน ซึ่งเราคิดว่าปัจจัยสี่ยังไงก็สำคัญจึงริเริ่มทำธุรกิจนี้ ซึ่งการทำธุรกิจอาหาร ความท้าทายก็คือต้องทำให้รสชาติถูกปากคน อย่างธุรกิจปูดองอันยองเราเริ่มต้นจากการขายออนไลน์และส่งเดลิเวอรี่ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมาก หลังจากนั้นเราก็มีเป็นหน้าร้านให้ซื้อกลับบ้าน และขยายสาขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ในมุมของการทำธุรกิจออนไลน์นั้นมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง ฉะนั้นเราก็ต้องพยายามต่อยอดและหาสิ่งที่แตกต่างจากคู่แข่ง ตอนนี้ก็เลยมีเปิดเป็นร้านอาหารชื่อโซลจู ปูดอง
ซึ่งหัวใจสำคัญในการทำร้านอาหารก็คือ คุณภาพของอาหาร ความสะอาด หน้าตาต้องดูน่ากินและรสชาติต้องอร่อย รวมถึงการบริการที่ดีเยี่ยม แต่ในการใช้ชีวิตนอกจากเรื่องการทำงานแล้ว เราก็ต้องรู้จักหาเวลารีแลกซ์ให้ตัวเองด้วย ถ้าช่วงไหนเริ่มคิดอะไรใหม่ๆ ไม่ออก ก็ลองเปลี่ยนสถานที่จากที่อยู่ประจำก็ออกไปข้างนอก อย่างเช่นเปลี่ยนร้านอาหาร นัดไปแฮงค์เอาท์กับเพื่อน หรือไม่ก็ออกเดินทาง
ส่วนเรื่องการแต่งตัวเวลาไปทำงานเราก็จะเลือกเสื้อผ้าที่มีความเรียบร้อยแต่งออกมาแล้วดูดีเพื่อเป็นตัวอย่างให้ลูกน้อง อย่างลุควันนี้ก็เลือกเป็นชุดที่ใส่ง่ายและคล่องตัว เป็นกางเกงสีดำใส่กับเสื้อโทนสีอ่อน ทับด้วยเบลเซอร์ที่มี เลเยอร์และสีสัน เป็นการทำให้ลุคดูสนุกสนานขึ้น แต่ถ้าเป็นการคุยงานที่เป็นทางการเราจะเลือกใส่เป็นชุดเดรสที่มีความเฟมินีน และเพิ่มความโก้ด้วยเบลเซอร์ตัวสั้นสักตัว เพราะเราเชื่อเสมอว่าเวลาที่คนเราเจอกันอย่างคนไม่รู้จัก เราก็จะต้องดูเรื่องการแต่งตัวเป็นอันดับแรก และถ้าเราแต่งตัวดีเขาก็เชื่อถือเราไปแล้วครึ่งหนึ่ง’
ปิดท้ายที่สาวนักกีฬาทีมชาติ พลอย ปิ่นแสง เจ้าของสตูดิโอสำหรับนักปั่นที่รักการเต้นไปตามเสียงเพลง ‘ไทรบ์ บีเคเค’ (TRIBE BKK) ที่เชื่อว่าการลงมือในสิ่งที่ตนเองรักนั้นเป็นพื้นฐานสำคัญของการใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จ ‘ตอนนี้เราก็ยังเป็นนักกีฬาโปโลอยู่แต่ว่าก็จะเล่นแค่ช่วงฤดูกาลแข่งขัน โดยส่วนใหญ่ก็ไปแข่งที่ต่างประเทศ ซึ่งทุกครั้งที่ไปมันเหมือนเป็นการเปิดโลกให้เราเหมือนกันว่าแต่ละที่เขาพัฒนากันยังไง และคนกำลังสนใจสิ่งไหน แต่นอกจากโปโลแล้วเราก็มีทำสตูดิโอปั่นจักรยานสปินนิ่งที่เป็นครูสอนเองด้วย โดยกิจกรรมนี้เราเคยมีโอกาสได้เล่นแล้วรู้สึกชอบ ก็เลยเริ่มศึกษาอย่างจริงจังอยู่ประมาณ 2 ปี ด้วยการเดินทางไปลองเรียนกับหลายๆ ประเทศ เพื่อเรียนรู้ว่าเขามีวิธีสอนกันยังไง การเลือกเพลง การใช้เสียง ใช้ไฟ รวมถึงการควบคุมอากาศ จนกระทั่งเราได้รูปแบบที่เหมาะสมกับคนไทยที่สุด เพราะเราเป็นคนที่ถ้าจะลงมือทำอะไรแล้วก็ต้องเข้าใจและรู้รายละเอียดของสิ่งๆ นั้นอย่างถ่องแท้ เพื่อที่จะได้สอนคนที่จะมาเป็นลูกน้องและช่วยงานของเราได้ ซึ่งเราโชคดีที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักทั้งสองอย่าง เลยไม่เคยรู้สึกเบื่อหรือเหนื่อยเลย ฉะนั้นถ้าใครรู้ว่าตัวเองชอบอะไร หรืออยากทำธุรกิจอะไร ก็แค่ลงมือทำอย่าไปกลัว เพราะถ้าเป็นสิ่งที่เรารักมันจะออกมาดี
ส่วนการแต่งตัวเวลาทำงานหลักๆ จะเป็นชุดกีฬาหรือชุดออกกำลัง แต่ถ้าเป็นนัดที่ต้องไปเจรจากับผู้ใหญ่ก็จะแต่งให้ดูแคชชวลขึ้น อย่างเช่นชุดวันนี้ก็เป็นชิ้นที่มีความสปอร์ตด้วยเนื้อผ้าที่เป็นผ้าร่ม และชิ้นล่างสามารถใส่ให้เป็นได้ทางกางเกงและกระโปรง ใส่กับเสื้อที่เข้าชุดกันในโทนสีส้มเพื่อช่วยขับผิวเราให้สวยขึ้น’
โดยภายในงานนี้เหล่าเซเลบริตี้สาวได้เลือกสวมใส่ชุดจากแบรนด์เสื้อผ้าสตรีจากเกาะฮ่องกง ‘จิออร์ดาโน่ เลดี้ส’ (Giordano Ladies) ในคอลเลกชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2018 ‘บี เฮียร์ นาว ดิ อาร์ต ออฟ สโลว์เนส’ (Be Here Now The Art of Slowness) ที่ทางทีมดีไซน์ได้หยิบยกแรงบันดาลใจจากหญิงสาวที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตอย่างอิสระ ผู้ดื่มด่ำกับความงดงามทางธรรมชาติและสิ่งเล็กๆ ที่อยู่รอบตัวจนทำให้ทุกวันกลายเป็นวันอันแสนพิเศษได้ และเสน่ห์อันน่าค้นหาของหญิงสาวผู้นี้ได้ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นเสื้อผ้าสไตล์มินิมอลผ่านการเลือกใช้เลือกใช้โทนสีที่เปรียบเสมือนตัวแทนของธรรมชาติจากหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็น โทนสีฟ้า สีน้ำเงิน และสีส้ม ที่สะท้อยความงดงามของวิวทิวทัศน์ยามพระอาทิตย์ขึ้น หรือจะเป็นโทนสีที่สื่อถึงอารมณ์และสัมผัสอันอบอุ่นอย่างสีเอิร์ธโทน รวมทั้งโทนสีสดใสที่ได้แรงบันดาลใจจากห้วงมหาสมุทรและหาดทรายในดินแดนอันไกลโพ้น โดดเด่นด้วยสีฟ้าน้ำทะเล สีเหลืองของหาดทราย และสีส้มโทนร้อนจากไอแดด ที่จะทำให้สาว ๆ สนุกไปกับการมิกซ์แอนด์แมทช์ได้อย่างไม่รู้จบ
นอกจากนี้ ต้น ปรีดาพร แสงสีเรืองรอง ผู้จัดการแบรนด์จิออร์ดาโน่ เลดี้ส์ ประเทศไทย ยังได้แนะนำเคล็ดลับการมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าเพื่อสร้างสรรค์ลุคที่ดูดีอย่างเวิร์คกิ้งวูแมนมืออาชีพ ‘การแต่งตัวที่ดีนอกจากจะช่วยเสริมบุคลิกภาพแล้ว ยังสามารถเพิ่มความมั่นใจในการทำงานได้อีกด้วย และยังเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่จะสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่พบเจอได้ ซึ่งสิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเวลาที่ต้องแต่งตัวไปคุยงานก็คือกาลเทศะ และไอเท็มที่ผู้หญิงทุกคนควรมีติดตู้ไว้เลยก็คือกางเกงขายาวสีดำ สูทหรือเบลเซอร์ในโทนสีเบสิค และจั๊มสูทตัวยาวเรียบๆ สักตัว โดนอาจจะหยิบจั๊มสูทแขนกุดมาแมทช์กับเสื้อด้านใน ซึ่งอาจจะเลือกเป็นแขนยาวที่มีดีเทลการผูกตรงปลายแขน ก็จะได้ลุคทางการที่มีความเฟมินีนแฝงอยู่ หรืออาจจะเป็นชุดเสื้อกับกางเกงโทนสีอ่อนแล้วทับด้วยเบลเซอร์ที่มีสีเข้ากว่าก็จะได้ลุคมินิมอลที่ดูน่าสนใจไม่แพ้กัน หรืออาจจะใส่เป็นกางเกงขายาวสีดำ โดยมีเบลเซอร์และเสื้อตัวในที่เข้าชุดกัน ก็จะได้ลุคทางการที่ดูโดดเด่นและภูมิฐานมากขึ้น’
สาว ๆ คนไหนสนใจอยากได้เสื้อผ้าคอลเลกชั่นนี้ละก็ รีบออกจากบ้านไปเจอกันได้ที่ Giordano Ladies สาขาเซ็นทรัล ชิดลม, Zen ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ และเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ เขามีพร้อมให้สาว ๆ ช้อปไปใส่สวย ๆ กันได้เลย