ถ้าช่วงนี้คุณเบื่อง่าย ไม่ค่อยอยากตื่นแม้จะนอนเต็มอิ่มแล้ว ทำอะไรนิดหน่อยก็เพลีย หรือรู้สึกว่าตัวเอง หมดไฟในการทำงาน The Passion อยากบอกว่าอย่าเพิ่งฟูมฟายรีบลาออกจากงาน เพราะนั่นอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการจริงๆ
อาการแบบที่กล่าวมาข้างต้นเขาเรียกว่า Burnout หรือภาวะ หมดไฟในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นสาวออฟฟิศหรือเจ้าของกิจการ เราเชื่อว่าต่างก็ต้องเคยประสบปัญหานี้มาแล้วด้วยกันทั้งนั้น

เมื่อมีไฟก็หมดไฟได้เป็นเรื่องปกติ ในทางกลับกัน เมื่อเราหมดไฟ เราก็สามารถจุดไฟขึ้นมาได้อีกครั้ง ก่อนที่จะไปดู วิธีสร้างแรงบันดาลใจหลังหมดไฟจากการทำงาน เราขอให้คุณแน่ใจก่อนว่าคุณ หมดไฟ จริงๆ หรือแค่ขี้เกียจกันแน่
- เบื่ออาหาร แม้แต่ ชานมไข่มุก ที่เคยชอบก็ไม่ค่อยเอ็นจอย
- หงุดหงิดง่าย หัวร้อนแม้แต่กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
- จัดระเบียบตารางชีวิตได้ไม่ดีเท่าที่เคย
- มองไม่เห็นภาพในอนาคตว่าตัวเองจะไปไหนหรือทำอะไรต่อ
- นอนไม่ค่อยหลับ หลับไม่สนิท แต่ตอนเช้าไม่ค่อยอยากตื่นซะงั้น
ถ้าคุณมีอาการตามข้างบนสัก 2-3 ข้อขึ้นไป แสดงว่าคุณเริ่มจะหมดไฟในการทำงานแล้วล่ะ รีบแก้ไขก่อนที่มันจะลุกลามและทำให้ชีวิตคุณรวน… เอาล่ะ มาดูวิธีสร้างแรงบันดาลใจจาก The Passion กันเลย!
1. นอนให้เพียงพอและกินอาหารดีๆ

การพักผ่อนให้เพียงพอฟังดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ แต่ลองสำรวจตัวเองดูดีๆ ว่าเราทำได้จริงหรือเปล่า คุณภาพของการนอน ไม่ได้อยู่ที่จำนวนชั่วโมง แต่อยู่ที่ว่าเราหลับสนิทหรือไม่ เพราะการนอนเป็นเหมือนการรีบูทตัวเองของร่างกาย ดังนั้น การนอนที่ดี เวลาเราตื่นขึ้นมาต้องรู้สึกสดชื่น ไม่ใช่โหยหาการนอนต่อ
ส่วนการกินอาหารดีๆ นั้นก็ไม่ใช่ว่าเราจะต้องทานอาหารแพงๆ แต่ต้องเป็นอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน ถ้าเครียดมากๆ ก็อนุญาตให้กินของหวานได้บ้าง แต่ต้องไม่มากเกินไป ไม่งั้นอ้วนนะ!
2. ทำงานเฉพาะในเวลางาน

ข้อนี้อาจจะทำได้ยากหน่อย เพราะงานบางงานก็จำเป็นจะต้องสแตนด์บายตลอดเวลา แต่ถ้าเป็นไปได้ เราอยากให้คุณทำงานในเวลางานให้เต็มที่ แต่ไม่ต้องแบกกลับมาทำที่บ้าน ไม่ต้องคิดเรื่องงานตลอด เวลาพักควรพักให้สุดๆ หากิจกรรมอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานทำดูบ้าง
3. ทำงานอดิเรก

การดูหนังฟังเพลงเป็นกิจกรรมง่ายๆ ที่ช่วยให้เราผ่อนคลายขึ้นได้เยอะ ให้เวลาตัวเองได้ทำสิ่งเหล่านี้ทุกสัปดาห์ หรือใครชอบช้อปปิ้ง แฮงค์เอาท์กับเพื่อนก็ไป แต่ถ้าจะให้ดี เราแนะนำกิจกรรมที่แหวกแนวไปเลย เช่น เล่นเวกบอร์ด หรือเทคคอร์สศิลปะ เพราะจะได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่จำเจ แถมได้ออกกำลังกายและได้สกิลติดตัวไว้ใช้ด้วยนะ
4. กดดันตัวเองให้น้อยลง

ผู้หญิงสมัยนี้เก่งมากกก ทำงานหนัก ทำงานดี และมีเป้าหมายชีวิตที่ค่อนข้างชัดเจน จึงทำให้หลายๆ คนกดดันตัวเองว่าต้องได้ตำแหน่งเท่านั้น ต้องได้เงินเดือนเท่านี้ภายในระยะเวลากี่ปีๆ จริงๆ การมีแพลนเป็นเรื่องดี แต่การมุ่งมั่นเกินไปบางครั้งก็ทำให้เหนื่อย เครียด ยิ่งถ้านำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นแล้วล่ะก็ ไม่ใช่ทุกครั้งที่เราจะเกิดแรงฮึด แต่กลับทำให้เรายิ่งล้ายิ่งท้อ เพราะฉะนั้นวางแผนชีวิตไว้หลวมๆ พอให้ตัวเองมีเวลาหายใจหายคอหน่อย
5. ให้รางวัลตัวเองบ้าง

ไม่จำเป็นว่าต้องได้ขึ้นเงินเดือนหรือเลื่อนตำแหน่งจึงจะให้รางวัลตัวเองได้ บางครั้งแค่ทำงานจบหนึ่งโปรเจกต์ก็ชมเชยตัวเองได้แล้ว ช้อปปิ้งซื้อของที่อยากได้ ทานอาหารอร่อยๆ หรือไปเที่ยวสักทริป จะทำให้เรามีกำลังใจ รู้สึกว่าที่เหน็ดเหนื่อยกับการทำงานไปนั้นคุ้มค่า และมีแรงที่จะกลับมาทำงานต่อไป