ใครๆ ก็อยากมีรูปร่างที่ดี โดยเฉพาะสาวๆ ยุค 4.0 เพราะการมีรูปร่างที่เป๊ะและปังนั้นย่อมหมายถึงสภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่ป่วยง่าย แถมยังช่วยให้เราเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าได้หลายรูปแบบ เรียกได้ว่าจะใส่ชุดแบบไหนก็สวยหรูดูแพง มีความมั่นใจแบบอันลิมิตตลอด 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่อุปสรรคที่ทำให้ภารกิจบิ๊วร่างให้ ฟิตแอนด์เฟิร์ม ต้องเหลวไม่เป็นท่าก็คือ ตารางงานอันแน่นเอี้ยด ซึ่งจริงๆ แล้ว การออกกำลังกายนั้นไม่จำเป็นว่าต้องไปที่ยิมหรือสวนสาธารณะเสมอไป สาวๆ ทุกคนสามารถเริ่มต้นฟิตหุ่นและหันมาดูแลรูปร่างของตัวเองได้ทุกที่ทุกเวลา
วันนี้ โค้ชแม้ด-พิมพ์อร โมกขะสมิต โค้ชด้านความแข็งแกร่งจาก อาดิดาส รันเนอร์ส แบงค็อก (adidas Runners Bangkok) จะมาแชร์วิธีออกกำลังกายที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลาในชีวิตประจำวันของเรา ที่จะทำให้การมีหุ่นสวยรวยเสน่ห์เป็นความฝันที่ไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป เริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใส ใส่รองเท้าแล้วลุยกันเลย เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะไปทำงาน เดินเล่นกับเพื่อน หรือจะเดินเที่ยวกับแฟน สาวๆ มักเลือกหยิบรองเท้าวิ่งมามิ๊กซ์แอนด์แมตช์กับเสื้อผ้าทุกสไตล์ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะสาวออฟฟิศที่มีเวลาจำกัดในการออกกำลังกาย รองเท้าวิ่งถือเป็นออพชั่นที่ดี เพราะสามารถเป็นตัวช่วยซัพพอร์ตเท้าคุณในการพิชิตภารกิจ “ ฟิตแอนด์เฟิร์ม ” ได้ทุกวัน โดยเฉพาะรองเท้าที่น้ำหนักเบา พื้นรองเท้ากว้างใส่สบาย ซัพพอร์ตที่นุ่ม ใส่เดินเยอะแค่ไหน ยืนรอรถเมล์นานแค่ไหนก็ไม่เมื่อย แถมยังยืดเส้นยืดสายเบาๆ ระหว่างรอรถได้อีกต่างหาก
บันไดรถไฟฟ้า-ออฟฟิศ ตัวช่วยฟิตแอนด์เฟิร์ม การทำงานออฟฟิศย่อมหลีกหนีไม่พ้นการเดินขึ้น-ลงบันไดในแต่ละวันสำหรับสาวๆ บางคนอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นบันไดรถไฟฟ้าหรือว่าบันไดในที่ทำงาน เพียงแต่ว่าโดยส่วนมาก เรามักจะเลือกที่จะทุ่นแรงด้วยการใช้ลิฟท์หรือบันไดเลื่อนแทน แต่แท้จริงแล้วการเดินขึ้นบันไดนั้นทำให้ร่างกายของเราได้ขยับเขยื้อน (ช่วยแก้ง่วงยามบ่ายได้ด้วยนะ) ซึ่งก็เป็นการเคลื่อนไหวในท่าออกกำลังกาย “Step Up” หรือท่าที่สาวๆ มักนิยมทำเป็นประจำนั่นแหละ การออกกำลังกายท่านี้จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อช่วงต้นขา สะโพก และน่อง ซึ่งเป็นส่วนที่ผู้หญิงอย่างเราควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้น การเดินขึ้นบันไดเป็นประจำยังมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักอีกด้วย เพราะว่าการขึ้นบันได 15 นาที จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ประมาณ 150 แคลอรี่เลยทีเดียว
ขยับแขนขา บอกลาออฟฟิศซินโดรม นั่งทำงานนานๆ โดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ นอกจากขยับนิ้วและข้อมือไปตามจังหวะของเม้าส์และคีย์บอร์ด จะนำมาซึ่งโรคยอดฮิตของมนุษย์เงินเดือน นั่นก็คือ “ออฟฟิศซินโดรม” ดังนั้น เราจึงควรปรับเปลี่ยนอิริยาบถในระหว่างขณะนั่งทำงานบ้าง เช่น การลุกขึ้นเดิน การยืดเส้นยืดสาย หรือการออกกำลังกายด้วยท่าง่ายๆ ที่สามารถทำได้ในบริเวณโต๊ะทำงานของเรา
- ท่า Calve Raise หรือ ท่าเขย่งน่อง – ท่านี้จะช่วยบริหารบริเวณกล้ามเนื้อน่องให้มีความแข็งแรงและกระชับ โดยเริ่มต้นจากการยืนแยกขา ปลายเท้าชี้ตรงไปด้านหน้า เขย่งขึ้นจนสุด ค้างไว้ประมาณ 3 วินาที จากนั้นลดส้นเท้ากลับลงมาที่ท่าเริ่มต้นแล้วจึงนับเป็น 1 ครั้ง (ควรทำอย่างน้อย 3 เซตๆ ละ 15 ครั้ง)
- ท่า Back Lunge หรือ ท่าก้าวไปด้านหลัง – การทำท่านี้จะช่วยบริหารบริเวณต้นขาและสะโพก รวมทั้งช่วยฝึกการทรงตัวด้วยเช่นกัน โดยท่านี้จะเริ่มจากการใช้เก้าอี้ทำงานเป็นอุปกรณ์เสริม แล้วเริ่มต้นด้วยการยืนตรง ให้ปลายเท้าทั้งสองข้างชี้ไปด้านหน้า จากนั้นใช้มือแตะเก้าอี้เพื่อทรงตัว แล้วก้าวเท้าไปด้านหลังในระยะที่เรายังสามารถทรงตัวได้ เสร็จแล้วจึงก้าวเท้ากลับมาที่เดิม โดยจะต้องเกร็งที่หน้าขาด้วย (ควรทำข้างละ 3 เซตๆ ละ 10 ครั้ง)
- ท่า Lateral Kick หรือ ท่ายืนและเตะขาไปด้านข้าง – สำหรับท่านี้จะช่วยบริหารและกระชับกล้ามเนื้อช่วงสะโพกด้านข้าง โดยเริ่มต้นจากการยืนหันด้านข้างให้เก้าอี้ จากนั้นก็ใช้มือของเราแตะเก้าอี้ไว้เพื่อพยุงตัว โดยจะต้องเปิดไหล่ เกร็งหน้าท้อง ลำตัวต้องตั้งตรง โฟกัสสายตาไปที่ด้านหน้า แล้วเตะขาออกด้านข้างให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยจะต้องเกร็งกล้ามเนื้อช่วงลำตัวอยู่ด้วย (ควรทำข้างละ 3 เซตๆ ละ 15 ครั้ง)
หมั่นคอยดูแลและรักษา “หัวใจ” – ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สาวๆ หลายคนมักมองข้าม เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วจะเลือกให้ความสำคัญกับการบริหารกล้ามเนื้อจนละเลยการดูแล “หัวใจ” ของตัวเองไป ฉะนั้นแล้ว ใครที่ฝันอยากจะมีรูปร่างที่เพอร์เฟค ก็อย่าลืมออกกำลังกายด้วยการวิ่งด้วยล่ะ เพราะการวิ่งถือเป็นการออกกำลังกายที่เป็นผลดีต่อหัวใจ หลังเลิกงาน รถติดใช่มั๊ย? เปลี่ยนเสื้อผ้าผูกเชือกรองเท้าวิ่งคู่ใจ อย่าง Pureboost Go ที่ออกแบบมาเพื่อการวิ่ง City Run โดยเฉพาะ พร้อมออกวิ่งไปตามทาง หรือถ้าลองลัดเลาะตามตรอกซอกซอยใหม่ๆ ก็จะทำให้เส้นทางที่พาเรากลับบ้านนั้นเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความท้าทายไม่ซ้ำแต่ละวันเลยล่ะ
เทคนิคการออกกำลังกายทั้งหมดนี้ถือเป็นการบริหารร่างกายแบบง่ายๆ ที่สาวๆ ทุกคนสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะสภาพแวดล้อมที่เราต้องเจอแบบไหน ก็สามารถนำไปปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของชีวิตประจำวันของแต่ละคน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การเริ่มต้นอย่างแน่วแน่ที่จะเลิกใช้ข้ออ้าง “ไม่มีเวลา” บวกกับอุปกรณ์ตัวช่วยดีๆ อย่าง Pureboost Go ที่ทั้งใส่สบาย มีพื้นบูสท์ (Boost) คอยซัพพอร์ทและคืนพลังทุกย่างก้าว แถมยังทำให้สาวๆ ทุกคนมั่นใจใน every day look ของตัวเองและยังสามารถพิชิตเป้าหมายการมีหุ่นที่ดีได้อย่างที่คาดหวังเอาไว้ได้อีก