ใต้เวที นางงาม ! กับเรื่องที่หลายๆ คนไม่เคยรู้มาก่อน

ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงเทศกาล นางงาม อย่างที่เราเห็นว่าตอนนี้มีเวทีประกวดนางงามกำลังประกวดกันให้ควั่ก ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งแต่ละเวทีก็ล้วนมีเรื่องแซ่บๆ เด็ดๆ กันทุกปี งานนี้ The Passion ก็ไม่พลาดที่จะรวมเรื่องราวที่บอกเลยว่าเป็นเรื่อง ‘ใต้เวทีนางงาม’ ที่สาวๆ หลายๆ คนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้

สาวๆ รู้มั้ย ? ว่าจริงๆ แล้วจุดเริ่มต้นของ นางงาม ในไทย มีความเป็นมายังไง ?

 ⌈ จุดเริ่มต้นของประกวดนางงามในไทย ⌋ 

การประกวดจัดครั้งแรกในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2477 โดยใช้ชื่อว่า “นางสาวสยาม” โดยรัฐบาลได้จัดขึ้นในงานเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญเป็นปีที่สอง แต่เป็นการเริ่มจัดการประกวดนางสาวสยามเป็นปีแรก จากนั้นในปีพ.ศ. 2482 ได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อ “นางสาวไทย” ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้เรียกนามของประเทศว่าประเทศไทย จึงต้องเปลี่ยนจากคำว่า “สยาม” เป็นคำว่า “ไทย”

การประกวดในมีการจัดมาเรื่อยๆ หยุดบ้าง จัดบ้างตามสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนั้น ซึ่งตั้งแต่ปีพ.ศ. 2543 เป็นต้นมาผู้เป็นนางสาวไทยจะไม่ได้สิทธิ์ไปประกวดนางงามจักรวาล และในปัจจุบันผู้ที่ได้รับตำแหน่งนางสาวไทยจะเป็นผู้ดำรงตำแหน่ง “ทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว” ทำหน้าที่เผยแพร่วัฒนธรรม ประเพณีของไทย ให้ชาวต่างชาติได้รู้จัก … ปังไม่ปังล่ะ !

 ⌈ นางงาม มาบูมช่วงไหน ⌋ 

อย่างที่เห็นว่าการประกวดนางงามมีกันมานานมากกกกก แต่เอาจริงมันมาบูมช่วงไหนกันล่ะ ? ตามมาดูกันเลยดีกว่า !

 – ยุคแรก – 

• ยุคแรกคือ ช่วงที่ “อาภัสรา หงสกุล” ได้ยูนิเวิร์สในปี พ.ศ 2508
• แต่ถ้าบูมจริงๆ คือ ตอนที่ “ปุ๋ย – ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก” ได้รับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สในปี พ.ศ 2531 บูมมากถึงขนาดที่ว่าในยุคนั้นคนตั้งชื่อ “ปุ๋ย” เยอะมาก

 – ยุคหลัง – 

• มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เริ่มมาบูมช่วงปี พ.ศ 2558 ตอนที่ “แนท – อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์” ซึ่งเป็นช่วงที่ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald John Trump) ไม่ได้ทำมิสยูนิเวิร์สแล้ว (เพราะตอนแรกมิสยูนิเวิร์สเป็นลิขสิทธิ์ของโดนัลด์ ทรัมป์) แล้วทรัมป์เปลี่ยนมาเล่นการเมือง ก็เลยขายลิขสิทธิ์มิสยูนิเวิร์สให้ International Management Group (IMG) ซึ่งทำนางแบบ โมเดลลลิ่งนางแบบมาก่อนโดยทาง IMG จึงทำการเปลี่ยนคอนเซ็ปของนางงามใหม่ นางงามในยุค IMG จึงมีความแตกต่างจากยุคของทรัมป์ ซึ่งแต่เดิมจะมีความเป็นผู้หญิงที่สวยครบเครื่อง สวยจากภายนอกก่อน ผู้หญิงทุกคนต้องเป๊ะในลักษณะของสากลนิยม แต่ยุค IMG ซึ่งเป็นยุคใหม่จะมองความสวยของนางงามจากบุคลิกภาพ ความคิด ไม่จำเป็นต้องสวยแบบสากลนิยม แต่สวยแบบชาตินิยม สวยตามอัตลักษณ์ของแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นปีที่ “แนท” ผู้หญิงผิวแทนตั้งแต่เกิดคนแรกของไทยที่ไปประกวด และได้เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายในมิสยูนิเวิร์ส (รอบชุดราตรี) ซึ่งเป็นรอบที่ลึกกว่าสมัย “กวาง – ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม” ได้เข้ารอบ 15 คนสุดท้าย (ชุดว่ายน้ำ) ในปี พ.ศ 2550
• อีกช่วงที่บูมมากๆ อีกปี คือ ปีของ “น้ำตาล – ชลิตา ส่วนเสน่ห์” ซึ่งเป็นรอบที่ “น้ำตาล” ได้เข้ารอบเข้ารอบ 6 คนสุดท้าย (รอบตอบคำถาม) ทำให้กระแสนางงามเริ่มบูมขึ้นมาแบบจริงจัง
• ล่าสุด คือ ปีของ “มารีญา พูลเลิศลาภ” ที่เป็นตัวเต็งตั้งแต่ในบ้าน ไปจนการประกวดมิสยูนิเวิร์ส เป็นนางงามที่ติดทุกโพลว่าคนนี้ไม่ได้ที่ 1 ก็ที่ 2 จน “มารีญา” ก็ได้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ซึ่งถือว่าลึกสุดในรอบหลายปี (จริงๆ รอบของน้ำตาลกับของมารีญา คือ รอบเดียวกัน แต่ในปีของน้ำตาลมีการเปิดโหวตให้นางงามเข้ารอบเพิ่มอีกหนึ่งคน เพิ่มเติมจาก 5 คนที่กรรมการได้ตัดสินไว้ ซึ่งน้ำตาลได้เข้ารอบจากที่กรรมการตัดสินไว้อยู่แล้ว แต่ประกาศให้น้ำตาลเข้าคนสุดท้ายเพื่อเรียกกระแสจากแฟนนางงาม)

หลายๆ คนคงสงสัยว่าในปัจจุบันเวทีนางงามนางมีกี่เวทีกัน ที่สำคัญคือ ประกวดเสร็จแล้วไปไหนต่อล่ะ ? 

 ♦ นางสาวไทย ♦ 

เป็นการประกวดนางงามรายการที่ 2 ของประเทศไทย ต่อจากนางสาวสยาม โดยในยุคแรกจัดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมส่งเสริมงานฉลองรัฐธรรมนูญ ต่อมาจัดขึ้นเพื่อส่งผู้ชนะเลิศเป็นผู้แทนประเทศไทยไปประกวด นางงามจักรวาล และในปัจจุบันจัดขึ้นเพื่อให้เป็น ทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว

 ♦ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ (Miss Universe Thailand) ♦ 

จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2543 โดยใช้ชื่อว่า มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์  (ด้วยความที่ตอนแรกไม่ได้เป็แฟนนางงาม คืองงไปพักนึง เพราะนึกว่าคนละเวที ฮ่าๆๆ ) เพื่อคัดเลือกตัวแทนของประเทศไทยเข้าประกวด นางงามจักรวาล (Miss Universe) และรองอันดับ 1 จะถูกส่งไปประกวด มิสเอิร์ธ (Miss Earth)

 ♦ มิสไทยแลนด์เวิลด์ (Miss Thailand World) ♦ 

เป็นการประกวดเพื่อส่งผู้ชนะเลิศเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าประกวด นางงามโลก (Miss World) คัดเลือกสาวไทยเชื้อสายจีนที่เข้าร่วมประกวด เป็นตัวแทนสาวไทยในการเข้าร่วมประกวด มิสไชนิสอินเตอร์เนชั่นแนล (Miss Chinese International Pageant)

 ♦ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ (Miss Grand Thailand) ♦ 

จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2556 เพื่อส่งผู้ชนะเลิศเป็นผู้แทนประเทศไทยเข้าประกวด มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล ต่อมาเปลี่ยนให้ทั้ง 77 จังหวัดจัดการประกวดมิสแกรนด์ขึ้น เพื่อหาสาวงามที่จะมาเป็นตัวแทนของแต่ละจังหวัดในการประกวด มิสแกรนด์ไทยแลนด์

 ♦ มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ (Miss International Thailand) ♦ 

จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2558 ผู้ชนะจะถูกส่งไปประกวด มิสอินเตอร์เนชั่นแนล (Miss International) และรองทั้ง 2 จะถูกส่งไป มิสโกลบอลบิวตีควีน (Miss Global Beauty Queen) และ มิสทัวริซึมควีนอินเตอร์เนชันแนล หรือ ราชินีการท่องเที่ยวนานาชาติ (Miss Tourism Queen International)

 มิสเวิลด์ VS มิสยูนิเวิร์ส 

สาวๆ หลายๆ คนอาจไม่รู้ว่าชื่อเวทีนั้น … มีความเป็นมายังไง จะบอกว่ามันมีความตลกอยู่ไม่น้อยเลย ซึ่งถ้าแฟนนางงามจะรู้เลยว่ามิสเวิลด์เป็นเวทีที่เก่าแก่สุด เป็นเวทีแรก! ก็เลยใช้ชื่อว่ามิสเวิลด์ ก็เป็นนางงามโลก แต่กับอีกเวทีอย่างมิสยูนิเวิร์ส นางมาทีหลังไง นางก็คิดว่าจะทำยังไงให้ดังดี ? ก็เลยชื่อนางงามจักรวาลเล้ยย … ใหญ่กว่าโลก เป็นอันชนะ

 เรามาดูรางวัลของเวทีนางงามกันบ้างดีกว่า … ว่านางจากชื่อเสียงและเกียรติยศที่จะได้แล้ว จะได้รับรางวัลอะไรบ้าง ( ถ้ามงลงหัวนะจ้ะ )

 ◊ มงกุฏ ◊ 

ขาดไม่ได้กับ ‘มงกุฏ’ ซึ่งมงของอันดับหนึ่งอย่างน้อยๆ มีราคาไม่ต่ำกว่า 7 หลักเลย ซึ่งมงก็มักจะประดับด้วยเพชรและพลอยชนิดต่างๆ และมักจะออกแบบมาให้แฝงไปด้วยความหมาย ซึ่งในแต่ละปีและแต่ละเวทีการประกวดนางงามก็จะออกแบบมงกุฎให้มีความแตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน หรือในบางเวทีจะมอบบริเวณเทียร่าให้กับนางงามเจ้าของมงกุฎ ส่วนตัวเรือนจะเก็บไว้ประกอบกับเทียร่าในปีอื่นต่อไป

 ◊ เงินสด ◊ 

เงินสดที่สาวๆ ที่มงลงหัวจะได้อย่างต่ำคือ 1 ล้านบาท 

 ◊ รางวัลอื่นๆ ◊ 

รางวัลอื่นอีกมากมายนับไม่ถ้วนที่สาวๆ ที่มงลงจะได้รับ เช่น บ้าน รถ รวมไปถึงประตูสู่โอกาสในการทำงานในวงการบันเทิง ( ซึ่งเราเชื่อว่าสาวๆ หลายๆ คนล้วนให้ความสนใจ )

 

 Dark Side ใต้เวที นางงาม ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ ! 

มาถึงหัวข้อที่หลายคนกำลังรอคอย กับเรื่องดาร์กๆ ใต้เวทีนางงามจาก แหล่งข่าวลับของเรา กันบ้าง แต่ละปีๆ ก็จะมีเรื่องมีราวกันทั้งนั้น ที่เราขอบอกเลยว่าแต่ละเรื่องแซ่บบบบบบ ! มาก

 ⌈ กองประกวด ⌋ 

เบื้องลึกเบื้องหลังกองประกวด ให้รางวัล หรือ หาร รางวัล กันแน่ !

• ตอนปี 2560 มีนางงามของเวทีการประกวดนางงามแห่งหนึ่งโดนปลดกลางอากาศหลังทางกองประกวดจะขอเปลี่ยนสัญญา ให้จ่ายส่วนแบ่งให้กองประกวด 50% แต่เจ้าตัวยืนยันจะใช้สัญญาเดิม จึงทำให้ถูกปลด โดยกองอ้างว่าเธอไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ตามที่ได้รับมอบหมาย และไม่เป็นไปตามกองกำหนด โหหห … ปาดน้ำตาเลยค่ะ !

‘เด็กเส้น’ ! เส้นกอง เส้นกรรมการ เส้นสปอนเซอร์มีจริงมั้ย ?

• หลายคนคงสงสัยว่าเด็กเส้นในการประกวดนางงามเนี่ยมีมั้ย ? บอกได้เลยว่ายังไงๆ ก็ต้องมีอยู่แล้ว แต่แค่ไม่ได้เปิดตัวว่าเป็นเด็กของคนนู้นคนนี้เข้ามา แต่ถามว่าถ้าเข้ามาแล้วศักยภาพไม่ได้ ก็อาจต้องปลิว เพราะมันก็จะค้านสายตาเกินไป
• แต่ก็มีข่าวดังมากๆ และค้านสายตาแฟนนางงามมากๆ กับการประกวดนางงามเวทีหนึ่งในปี 2557 จนหลายคนบอกว่าผู้ได้รับตำแหน่งเป็นเด็กเส้นบ้าง รวมถึงมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม จนเกิดการโจมตีในโซเชียลมากมาย จนทำให้นางต้องสละจากตำแหน่งไป
• ส่วนในปี 2560 เวทีการประกวดนางงามในต่างประเทศก็มีดราม่าเหมือนกัน ว่ามีนางงามหลายคนเข้าหาสปอนเซอร์อย่างชัดเจน แอบไปในที่ลับตา มีการออกไปกับสปอนเซอร์ต่อหน้าเพื่อนนางงามด้วยกัน และผลคือพวกนางก็เข้ารอบ!

กองประกวดไม่พอใจหากนางงามรับงานเอง เพราะห่วงภาพลักษณ์ หรือ ห่วงเรื่องเงินของนางงามกันแน่ ?

• จริงๆ มีประเด็นของนางงามรับงานเองของเวทีใหญ่เวทีหนึ่งของไทย ปี 2559 ที่มีข่าวว่ากองจะปลดและริบมงคืน เพราะว่านางงามไปรับงานเอง ลบเบอร์ผู้จัดการกองออกจากไอจีส่วนตัว แต่สุดท้ายกองก็ออกมาปฎิเสธว่าไม่มีการปลดและริบมงคืนนะจ้ะ ! แต่เบื้องลึกเบื้องหลังเป็นยังไงก็ไม่มีใครบอกได้

 ⌈ ผู้เข้าประกวด ⌋ 

การประกวดจริงๆ แล้วเริ่มกันตั้งแต่ช่วงไหน อายุเท่าไหร่ ?

• ตอนนี้ในไทยคือเริ่มประกวดกันตั้งแต่เด็กเลย บางคนแค่ 6-7 ขวบ ก็เริ่มประกวดกันแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้ไทยเริ่มมีโรงเรียนสอนเดินแบบ สอนบุคลิกภาพ พ่อแม่ที่อยากให้ลูกเข้าวงการก็ให้ลูกไปลงเรียน

จำเป็นมั้ย ? ที่การประกวดตั้งเริ่มจากเวทีเล็กก่อน

• จริงๆ ไม่จำเป็นเลย อย่างมิสยูนิเวิร์ส หรือมิสแกรนด์ ถ้าเขาเห็นว่าบุคลิกเค้าตรงเวทีก็ลงเลย แต่ส่วนมากที่ลงเวทีเล็กก่อนก็จะเหมือนเป็นการฝึกซ้อมก่อน จะได้ไม่ตื่นเวที ส่วนมากก็จะเป็นนางงามเดินสายแหละเอาจริงๆ  เพราะเท่าที่เห็นมานางงามที่ประกวดส่วนมากก็วนเวียนประกวดเวทีนู้นบ้าง เวทีนี้บ้าง ผลัดกันไปเรื่อยๆ

มีมั้ย ? คนที่เป็นนางงามสายประกวด สายเดินสาย ที่พอประกวดเวทีใหญ่แล้วก็แห้ว เพราะอะไรทั้งที่เค้าเจนเวที

• บอกเลยว่ามีเยอะมาก เพราะส่วนหนึ่งอาจด้วยความไม่เป็นธรรมชาติ สองคือกรรมการดูออก เช่น “ไปเวทีนึงบอกว่าเวทีนี้เป็นตัวหนูมากที่สุด พอไปอีกเวทีนึงก็บอกว่าเวทีเป็นความใฝ่ฝันของหนู” กรรมการเค้าก็ดูออกว่ามันไม่ใช่ ดังนั้นนางงามเดินสายอาจต้องหาเหตุผลเรียลๆ หน่อย

เท่ากับว่าคนที่ประกวดเวทีใหญ่เลยจะมีความสดใหม่กว่า

• จะพูดอย่างนั้นก็ได้ อย่างเช่น มารีญา เป็นนางแบบ สายนางแบบมาก่อน คนก็เห็นเยอะอยู่แล้ว แต่ไม่เคยเห็นประกวดนางงามมาก่อน พอมาประกวดแล้วก็เลยดูสดใหม่ ดูฉลาดแบบไม่เคยมีแนวนี้มาก่อน ไม่เหมือนนางงามเดินสายคนอื่นๆ ที่แบบว่าบุคลิกก็คล้ายๆกัน ดูเป็นพิมพ์นิยมเหมือนกัน ดูไม่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง

โปรไฟล์ส่วนตัวมีผลมั้ย ?

• สำหรับโปรไฟล์บอกสาวๆ ได้เลยว่า มีผลมากๆ เพราสมัยนี้นางงามไม่ได้ดูแค่ความสวยแล้ว ดูที่การศึกษา ชาติตระกูล ครอบครัว อย่างมิสยูนิเวิร์สเมื่อปีที่แล้วมีรอบดูการสัมภาษณ์คนใกล้ตัว ครอบครัว เพื่อนสนิท พี่เลี้ยงเอามาสัมภาษณ์จิตวิทยาด้วย เพื่อให้รู้เบื้องหลังนางงามคนนี้ให้เป็นตัวแทนของประเทศไปประกวดได้หรือเปล่า ซึ่งอันนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ ซึ่งก็สัมภาษณ์ทุกคนเลย อย่างสมัครเสร็จเขาก็จะประกาศ พอประกาศเสร็จก็จะเป็นรอบดูครอบครัว แล้วก็จะคัดคนไปตัดสินอีกรอบนึง เป็นรอบเดิน รอบบุคลิกภาพต่างๆ ที่เขาเอารอบนี้ขึ้นมาก่อน เพราะเค้าต้องการคนที่มีความคิดที่ดี คนที่สามารถเรียนรู้ไปกับกองประกวดได้ … ต้องพร้อมหน่อยนะจ้ะ !

จริงมั้ย ? สวยครบเครื่อง มีความสามารถดี แต่ถ้าไม่มี Backup ก็ร่วง !

• ของอย่างนี้อยู่ที่ความสามารถ บางคนก็มาแบบไม่มีพี่เลี้ยง แค่เค้าอยากเป็นนางงาม อยากลงประกวด เค้าก็ติดต่อ ( แหล่งข่าว ) มาว่าอยากให้ช่วยหาชุดให้ ให้ช่วยเรื่องถ่ายภาพ ก็คือสุดท้ายเขาก็หาตัวช่วยอยู่ดี ไม่มีทางหรอกที่จะหาชุดเอง เขาก็ต้องวิ่งหาคนช่วยอยู่ดี แต่มันก็จะต่างกับคนที่มีการซัพพอร์ตอยู่แล้ว

พี่เลี้ยงส่งนางงามแต่ไม่บอกว่าตัวเองส่ง !

• บอกเลยว่าต้องมีอยู่แล้ว เพราะว่าบางทีพี่เลี้ยงนางงามก็อาจจะไม่ถูกกับกองประกวด หรือ เพื่อเมคโปรไฟล์ว่าน้องคนนี้มาคนเดียว แต่จริงๆ ก็มีทีมช่วยซัพพอร์ตอยู่

กลายเป็นว่าพี่เลี้ยงนางงามมาในรูปแบบของโมเดลลิ่งมากขึ้นหรือเปล่า ?

• เอาจริงๆ คือมาในรูปแบบนี้มากขึ้น เพราะตอนนี้บอกได้เลยว่าทุกอย่างคือธุรกิจ นางงามก็คือธุรกิจ ! 

เหมือนประกวดเพื่อเอามาเป็นนางแบบมากกว่า ?

• เป็นเรื่องที่แน่นอน เพราะว่านางงามสมัยนี้กับสมัยก่อนไม่เหมือนกัน สมัยก่อนคือผู้หญิงที่ดูเป็นผู้หญิง ดูอ่อนช้อย เดี๋ยวนี้ต้องดูเฟียสๆ เดินสับๆ ด้วยความเป็นนางงามยุค IMG ด้วยแหละ บริษัท IMG เป็นบริษัทโมเดลลิ่งเค้าเลยต้องการดูเป็นโมเดล

 ⌈ ชีวิตหลังการประกวด ⌋ 

ส่วนใหญ่ก็จะไปเป็นดารา นางแบบ จนคนมองข้ามเรื่องการทำภารกิจเพื่อสังคมไปเลย

• บางคนก็รู้สึกว่าแม้กระทั่งมิสยูนิเวิร์สก็ตาม มันไม่มีภารกิจที่เหมือนนางงามสมัยก่อนที่จะมีภารกิจทำเพื่อสังคมที่เราเห็นภาพชัด สมัยนี้คืออย่างคนล่าสุดที่ได้มิสยูนิเวิร์สพอได้มงกุฎเสร็จปุ๊ป มาไลฟ์สดแต่งหน้าโชว์ คือมันก็มีบ้างที่เป็นงานการกุศล แต่มันน้อยมาก จนรู้สึกว่าจะประกวดไปทำไม ?

ถ้าเทียบกับยุคปุ๋ย พรทิพย์ มีกิจกรรมอะไรที่ชัดเจนกว่านี้มั้ย ?

• ในยุคนั้นเขาก็ตั้งมูลนิธิ – องค์กรเพื่อเด็ก จะบอกว่าเหมือนนางงามยุคก่อนเค้ามีอุดมการณ์ซึ่งดูต่างจากเดี๋ยวนี้ อาจจะขึ้นอยู่กับบริษัทต้นสังกัดด้วยหรือเปล่าที่อาจจะไม่ซัพพอร์ต หรืออาจเปลี่ยนไปตามยุคกระแสสังคมก็ได้ สมัยนี้อาจจะไม่ต้องทำอะไรเพื่อสังคม อาจจะมีอะไรอย่างอื่นที่ทำซึ่งเราไม่รู้หรือเปล่า แต่เท่าที่เห็นมาก็ไม่มีอะไรเลย มีแค่ไปตามงานอีเว้นท์ ดูไม่เหมือนสมัยก่อน

ช่วงหลังเราจะได้ยินเรื่องนางงามฉีกสัญญาบ่อย เพราะอะไร

• พี่เลี้ยงก็มีส่วน เรื่องค่าใช้จ่ายก็มีส่วน การป้อนงาน อิสระในการรับงาน เดี๋ยวนี้คือรับงานเองง่ายกว่า พอมีชื่อเสียงก็รับงานเองง่ายกว่า ด้วยความที่มันไม่มีพันธกิจที่ชัดเจนแล้วก็อาจไม่รู้ว่าจะอยู่กับสังกัดไปทำไมอ่ะเนอะ (ต้องดำรงตำแหน่ง 3 ปี)

มาดูบรรดานางงามที่มงลงหัวกันบ้างดีกว่าว่าหลังจากการประกวดจบแล้ว นางไปต่อทางไหนกันบ้างงงงง

 – สายนางแบบ – 

เวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์

• “ลูกเกด – เมทินี กิ่งโพยม” – เจ้าของมงกุฏมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2535
• “ซินดี้ – สิรินยา บิชอพ”  – เจ้าของมงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2539
• “หนูสิ – สิริรัตน เรืองศรี” – เจ้าของมงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2553
• “ณฉัตร – กวิยณัฎฐ์ แฮร์มันน์” – เจ้าของมงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2555

เวทีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส

• “แนท – อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์” – เจ้าของมงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2558
• “น้ำตาล – ชลิตา ส่วนเสน่ห์” – เจ้าของมงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2559
• “มารีญา พูลเลิศลาภ หรือ มารีญา ลินน์ เอียเรียน” – เจ้าของมงกุฏมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2560

เวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์

• “ปลา – ปรภัสสร วรสิรินดา” – เจ้าของมงกุฎมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ปี 2557

 – สายนางเอก/นักแสดง – 

เวทีนางสาวไทย

• “อร – อรอนงค์ ปัญญาวงศ์” – เจ้าของมงกุฎนางสาวไทย ปี 2535
• “น้ำฝน – สรวงสุดา ลาวัณย์ประประเสริฐ” – เจ้าของมงกุฎนางสาวไทย ปี 2540
• “บุ๋ม – ปนัดดา วงศ์ผู้ดี หรือ ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” – เจ้าของมงกุฎนางสาวไทย ปี 2543
• “นุ้ย – สุจิรา อรุณพิพัฒน์” – เจ้าของมงกุฎนางสาวไทย ปี 2544
• “หมอเจี๊ยบ – ลลนา ก้องธรนินทร์” – เจ้าของมงกุฎนางสาวไทย ปี 2549 นางเอก(พระเอก) สายหล่อ
• “โจอี้ – อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์” – เจ้าของมงกุฎนางสาวไทย ปี 2552
• “โบว์ลิ่ง – ปริศนา กัมพูสิริ” – เจ้าของมงกุฎนางสาวไทย ปี 2555

เวทีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส

• “เอมมี่ – มรกต แสงทวีป” – เจ้าของมงกุฎมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2547
• “ปุ๊กลุก – ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” – เจ้าของมงกุฎมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2553
• “ชาม – ไอยวริญท์ โอสถานนท์ โธมัส” – เจ้าของมงกุฎมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2549
• “แก้ม – กวินตรา โพธิจักร” – เจ้าของมงกุฎมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2551
• “ฟาริด้า วัลเลอร์ หรือ ริด้า – ณัฐพิมล นาฏยลักษณ์” – เจ้าของมงกุฎมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2555
• “ยีน – เกวลิน ศรีวรรณา” – รองชนะเลิศอันดับ 2 จากเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี 2555
• “แซนดี้ – ชลิดา กล่ำปาน” – 1 ใน 10 คนสุดท้ายของการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2557
• “ฝ้าย – เวฬุรีย์ ดิษยบุตร”  – อดีตมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปี  2557

เวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์

• “กบ – ดร.ปภัสรา เตชะไพบูลย์” – เจ้าของมงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2531
• “เมญ่า – นนธวรรณ ฌรรวนธร” – เจ้าของมงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2557

เวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์

• “อ๋อ – ญาดา เทพนม” – เจ้าของมงกุฎมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ปี 2556
• “ปอไหม – รัตติกร ขุนโสม” – เจ้าของมงกุฎมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ปี 2558
• “ฝ้าย – สุภาพร มะลิซ้อน” – เจ้าของมงกุฎมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ปี 2559

 – สายนักกีฬา – 

เวทีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส

• “มิกซ์ – เจนจิรา เกิดประสพ” – เจ้าของมงกุฎมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2546 และนักยิงธนูหญิง
• “วิว – พงศ์ชนก กันกลับ” – เจ้าของมงกุฎมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2552 และนักกีฬาเทควันโดหญิงทีมชาติไทย

มาถึงตรงนี้บอกได้เลยว่า … ยิ่งกว่าพาไปอยู่ใต้เวทีนางงามอี้กก เพราะเราแทบจะพาสาวๆ ไปสิงตัวนางงามกันอยู่แล้ว แหม ก็มันกำลังอินอ่ะเนอะ