สิวถึงจะเม็ดเล็กๆ แต่ก็มีพิษสงไม่เบานะเออ ไหนจะสิวอุดตันที่ขยันผุดขึ้นมาบนหน้ายามเครียด  ไหนจะสิวอักเสบที่ผุดขึ้นมาแต่ละทีก็เจ็บจี๊ดๆ แล้วยังทิ้งรอยแผลเป็นดำๆ แดงๆ ไว้ให้ดูต่างหน้าอีก ไม่ว่าจะสิวเม็ดเล็กเม็ดใหญ่ก็สร้างความไม่มั่นใจอย่างแรงให้กับสาวๆ ทั้งนั้น งั้นเรามาทำความรู้จักกับเจ้าตัวป่วนนี้ให้ดีขึ้นอีกซักหน่อยดีกว่า เผื่อครั้งหน้ามันจะได้ไม่มากวนใจเราอีกไง

สิว คืออะไร

ฮัลโหล…เรารู้จักคำว่าสิวมาเกือบทั้งชีวิต แต่จริงๆ แล้วสิวมันคืออะไรกันแน่… สิว ก็คือการอุดตันของระบบต่อมไขมันในรูขุมขน ซึ่งจะพบเป็นลักษณะตุ่มเม็ดเล็ก ๆ ที่มีลักษณะเป็นไตสีขาว ๆ อยู่ข้างใน หากมีตัวกระตุ้นเพิ่มเติม เช่น แบคทีเรีย หรือ ฝุ่นละอองในอากาศ ก็อาจจะทำให้เกิดการอักเสบได้ และหากสิวอักเสบมากขึ้นแล้ว ก็จะกลายเป็นตุ่มหนอง เป็นสิวหัวช้าง และเป็นซีสต์ได้

กระบวนการเกิดสิว เป็นอย่างไร

เรื่องมันก็เริ่มมาจากต่อมไขมันสร้างน้ำมันและไขมันซึ่งจะถูกขับออกทางท่อน้ำมันที่มีรูเปิดเดียวกับรูขุมขน หากผลิตและระบายออกจากท่อไม่ทันจะเกิดการสะสมและคั่งค้างในรูขุมขน ซึ่งจะกระตุ้นให้เซลล์ผิวบริเวณดังกล่าวสร้างเคราตินขึ้นมา สารเคราตินนี้จะจับตัวแน่นกับน้ำมันและไขมัน เกิดเป็น สิวอุดตัน ต่อมาการอุดตันจะทำให้เกิดสภาพไร้ออกซิเจนในรูขุมขน แบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว ชื่อ โพรพิโอนิแบคทีเรีย แอคเน่ จะเจริญเติบโตและทำการย่อยสลายไขมันจนกลายเป็นสิวอักเสบในที่สุด

สิว เกิดจากอะไรได้บ้าง

  1. พันธุกรรม : พบว่าถ้าพ่อแม่เป็นสิวรุนแรงลูกก็มีโอกาสเป็นเช่นกัน
  2. ฮอร์โมน : โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮอร์โมนเพศชายมีผลทำให้เกิดสิว เนื่องจากร่างกายเกิดภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล
  3. การขับไขมันบนผิวหนังที่มากเกินไป เกิดการอุดตันและการอักเสบที่สัมพันธ์กับเชื้อแบคทีเรีย

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบางอย่างไม่ใช่สาเหตุโดยตรงในการเกิดสิว แต่สามารถกระตุ้นให้อาการของสิวแย่ลงได้ นั่นก็คือ

  • อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง (น้ำตาลและแป้ง)
  • การบริโภคนมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมวัวมากเกินไป (ยกเว้นชีส)
  • การสูบบุหรี่
  • การนอนดึก
  • ความเครียด
  • เครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขนได้
  • ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ก่อให้เกิดการอุดตัน
  • การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงสามารถทำให้อาการของสิวแย่ลงได้

ชนิดของสิว

  1. สิวที่มีการอักเสบ เช่น สิวที่เป็นตุ่มแดง (สิวอักเสบ), สิวที่มีหนอง (สิวตุ่มหนอง), สิวอักเสบขนาดใหญ่ (สิวหัวช้าง) และสิวที่มีการทำลายของผิวข้างในจนเป็นโพรงคล้ายซีสต์
  2. สิวที่ไม่มีการอักเสบ เช่น สิวอุดตันหัวขาว (สิวอุดตันหัวปิด), สิวอุดตันหัวดำ (สิวอุดตันหัวเปิด)

การป้องกันสิว

  1. ห้ามแคะแกะเกาสิวเด็ดขาด
  2. ลดอาหารที่มีไขมันสูง
  3. พักผ่อนให้เพียงพอ อย่านอนดึก
  4. ล้างหน้าอย่างพอดีไม่บ่อยจนเกินไป
  5. ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว
  6. หลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่นละออง ควันรถ
  7. หลีกเลี่ยงความเครียดเพราะการเครียดจะทำให้ต่อมไขมันทำงานหนัก

การรักษาสิว

  1. ใช้ยากลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ เพราะช่วยลดการขับไขมันส่วนเกิน ลดการอุดตันช่วยลดการอักเสบของสิว
  2. ใช้ยาปฏิชีวนะ แบบรับประทานหรือแบบทาเพื่อลดปริมาณเชื้อแบคทีเรีย ส่งผลให้การอักเสบลดลง
  3. การใช้ยากลุ่มฮอร์โมน เช่น ยาคุมกำเนิดที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชายแต่อาจมีผลข้างเคียง
  4. การใช้กรดผลไม้ ใช้เลเซอร์ หรือทำทรีตเม้นท์ที่คลินิคความงามที่เชี่ยวชาญด้านการรักษาสิวโดยเฉพาะ

สุดท้ายแล้ว หากเป็นปัญหาผิวเรื้อรังยังไงสาวๆก็ควรจะไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษาและดูแลผิวในระยะยาวดีกว่านะคะ

  1. Neo Laer Clinic

นีโอเลเซอร์คลินิค โดดเด่นด้านการรักษาสิวด้วยเลเซอร์ ประยุกต์ใช้เลเซอร์พลังงานแสง-คลื่นวิทยุ พร้อมกับการนำตัวยา ALA มาช่วยกระตุ้นการจับแสงทำให้ฆ่าเชื้อโรคและต่อมไขมันถูกทำลายได้ง่าย การรักษาด้วย ALA จะให้ผลการรักษารวดเร็วและมีความปลอดภัยมาก สามารถรักษาสิว และยังช่วยรักษารอยดำรอยแดง แผลเป็นที่เกิดขึ้นจากสิว ซึ่งทำให้หน้าใสกว่า IPL ถึง 3 เท่า

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.neolaser-clinic.com

  1. DNA Clinic
dnaskinclinic.com

ดีเอ็นเอคลินิคมีโปรแกรมรักษาสิวแบบสูตรเดียวอยู่ ที่สามารถรักษาได้ตรงจุดมากที่สุด และช่วยลดการอักเสบของสิวทั้งยังช่วยลดแบคทีเรียสาเหตุหลักของการเกิดสิว เพียงเข้ารับการรักษาตามขั้นตอนง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการ ฉีด-กด เพื่อกำจัดสิวที่ปรากฏบนใบหน้า เวชสำอางรักษาสิว เพื่อผิวเนียนละเอียดและป้องกันสิวในอนาคต ทรีตเมนท์สูตรเฉพาะของ DNA เพื่อลดรอยแดง บรรเทาอาการอักเสบ และเลเซอร์จัดเต็มเพื่อลดอาการอักเสบ ควบคุมความมัน กระชับรูขุมขน และลดริ้วรอยที่เกิดจากสิว คุณก็จะได้หน้าใสไร้สิวแบบยั่งยืน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.dnaskinclinic.com

  1. The Demis Clinic

เดอะ เดอร์มิส คลินิก ใช้นวัตกรรมเครื่องเลเซอร์ ไอโซลาซ เป็นเทคโนโลยีกำจัดสิวจากสหรัฐอเมริกา รวมเอาเทคนิคสุญญากาศและเทคโนโลยีลำแสงมารวมอยู่ด้วยกัน กำจัดไขมันที่อุดตัน หนองจากสิว เซลล์ที่ตายแล้วและสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ ไม่ทิ้งรอยแดง หลุมสิว พร้อมช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง และป้องกันไม่ให้เกิดสิวซ้ำอีกครั้ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thedemisclinic.com

คราวนี้สาวๆ  ก็ได้รู้ถึงที่มาที่ไป สาเหตุ และวิธีป้องกันรักษาเจ้าสิวตัวป่วนที่คอยผุดมากวนใจหน้าใสๆ ของเราแล้วใช่มั้ยล่ะ ที่สำคัญเลยคืออย่าลืมดูแลสุขภาพผิวหน้าเราให้ดีและแข็งแรงจากภายในด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอยู่เสมอ รวมถึงรักษาความสะอาดของใบหน้า ล้างเครื่องสำอางให้หมดจดด้วย เจ้าตัวร้ายอย่างสิวจะได้หมดโอกาสโผล่หัวมาทำร้ายทำลายหน้าสวยของเราได้อีก